ยอดค้าปลีกอังกฤษยังทรงตัวเท่าเดิมในเดือนกันยายนเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ผิดจากที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะมีการขยายตัวถึง 2.8% และนับเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันแล้วที่ยอดค้าปลีกทรงตัว
อย่างไรก็ตาม ยอดค้าปลีกดังกล่าวยังสูงกว่ายอดของเดือนกันยายนปีที่แล้วอยู่ 2.4% เนื่องจากในช่วงเวลานั้นผู้บริโภคกำลังลดการใช้จ่ายลงด้วยเกรงว่าระบบการเงินจะล่มสลายเพราะ เลห์แมน บราเธอร์ส เพิ่งล้มละลาย
ยอดขายของร้านขายอาหารลดลง 0.1% ในเดือนกันยายน ส่วนยอดขายของร้านที่ไม่ได้ขายอาหารยังทรงตัว ด้านยอดขายสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม และรองเท้า ลดลง 0.5%
ตัวเลขดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบเงินดอลลาร์และยูโรหลังมีการเปิดเผยรายงานนี้
"ยอดค้าปลีกเดือนกันยายนซบเซาเกินคาดเมื่อเทียบกับผลสำรวจที่แข็งแกร่งของสมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (CBI) และสมาคมผู้ค้าปลีกอังกฤษ (BRC)" วิคกี้ เร้ดวูด นักเศรษฐศาสตร์จากแคปิตอล อีโคโนมิกส์ กล่าว
ทั้งนี้ แม้ตัวเลขค้าปลีกจะออกมาน่าผิดหวัง แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าวันศุกร์นี้อังกฤษจะเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 3 ที่มีการขยายตัวครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี