ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและดอลลาร์นิวซีแลนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) นอกจากนี้ ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขว่างงานประจำสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวแข็งแกร่งทำให้เกิดการคาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนจะยุติการใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจเร็วๆนี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.29% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 91.250 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 90.990 เยน/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 0.08% เมื่อเทียบกับดอลลาร์นิวซีแลนด์ที่ 0.7591 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7585 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.17% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.5034 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.5008 ยูโร/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลง 0.17% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0042 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0059 ฟรังค์/ดอลลาร์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.14% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6625 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.6600 ปอนด์/ดอลลาร์ แตะขยับขึ้น 0.01% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลียที่ 0.9271 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9270 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
เดวิด กิลมอร์ นักวิเคราะห์จาก Foreign Exchange Analytics กล่าวว่า ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นแตะ 531,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ รวมทั้งราคาบ้านที่ปรับตัวลดลงเกินคาด
นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวแข็งแกร่งทำให้เกิดการคาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนจะยุติการใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจเร็วๆนี้ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของปีนี้ ขยายตัว 8.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศไตรมาส 3 พุ่งขึ้น 12.4% จากปีที่แล้ว และยอดค้าปลีกประจำไตรมาส 3 ของจีนพุ่งขึ้น 15.1%เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากกลุ่มผู้ผลิตปรับลดราคาสินค้า
ค่าเงินปอนด์ได้รับแรงหนุนหลังจากอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกภายในประเทศเดือนก.ย.ยังคงทรงตัวเป็นเดือนที่ 2 และหลังจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจอังกฤษเปิดเผยว่า เงินโบนัสสำหรับพนักงานสถาบันการเงินในอังกฤษอาจเพิ่มขึ้นถึง 50% แตะ 6 พันล้านปอนด์ในปีนี้ หลังจากที่ธนาคาร บริษัทโบรกเกอร์ และเฮดจ์ฟันด์ในอังกฤษมีกำไรมากขึ้น