ผู้บริหารระดับสูงของซิตี้กรุ๊ป อิงค์ และแบงก์ ออฟ อเมริกา ได้รับรายได้โดยเฉลี่ยคนละ 18.2 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ทั้ง 2 ธนาคารได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลมูลค่า 9 หมื่นล้านดอลลาร์
เคนเนธ ไฟน์เบิร์ก ผู้มีอำนาจดูแลเงินเดือนผู้บริหารและจัดบัญชีค่าตอบแทนของสถาบันการเงินและบริษัทต่างๆที่เข้าโครงการการลดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP) ของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า ซิตี้กรุ๊ปได้จ่ายให้ผู้บริหารระดับสูง 21 คน เป็นเงิน 390.2 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นรายได้เฉลี่ย 18.6 ล้านดอลลาร์ ส่วนแบงก์ ออฟ อเมริกา จ่ายเงินให้กับผู้บริหาร 227.8 ล้านดอลลาร์ แก่ผู้บริหาร 13 คน หรือคิดเป็นสัดส่วน 17.5 ล้านดอลลาร์ต่อคน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวไม่นับรวมพนักงานที่ได้รับเงินเดือนสูงสุดที่ลาออกไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
ไฟน์เบิร์กกล่าวว่า เงินเดือนโดยเฉลี่ยของผู้จัดการของธนาคารทั้ง 2 แห่งสูงเกือบ 2 เท่าของบริษัทอีก 5 แห่งที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล นอกจากนี้ เขายังได้สั่งให้ลดการจ่ายเงินเดือนในปีนี้ลงกว่า 50% สำหรับผู้บริหารที่บริษัท 7 แห่งจำนวน 136 คน หลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐระบุว่า การที่ผู้บริหารสั่งจ่ายโบนัสจำนวนมหาศาลให้กับตัวเองทั้งที่พวกเขายังต้องพึ่งเงินภาษีประชาชนนั้นเป็นการทำลายคุณค่า
บลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว พนักงานที่ไฟน์เบิร์กได้ทบทวนเรื่องเงินเดือนจะได้รับเงิน 339.7 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ หรือคิดเป็นอัตราเฉลี่ยที่ 2.5 ล้านดอลลาร์
ไฟน์เบิร์กได้ลดเงินเดือนผู้บริหารของซิตี้กรุ๊ปลง 272 ล้านดอลลาร์ หรือ 70% จากระดับปีที่แล้ว และผู้บริหารเหล่านี้จะได้รับเงิน 118.4 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ หรือได้รับเฉลี่ยคนละ 5.6 ล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่จะเป็นการจ่ายในรูปของหุ้น เพื่อที่บริษัทเหล่านี้จะได้สนับสนุนให้ผู้บริหารขององค์กรให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว