มหาเศรษฐีฮ่องกง"ลี ชอ กี"ทุบขายหุ้นตลาดฮ่องกง 30% เบนเข็มลงทุนโครงการที่อยู่อาศัย

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 30, 2009 09:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายลี ชอ กี มหาเศรษฐีนักลงทุนชาวฮ่องกง เทขายหุ้นจำนวนมากถึง 30% ในตลาดหุ้นฮ่องกง เพื่อนำเงินมาลงทุนซื้อที่ดินสร้างที่อยู่อาศัย ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าความพยายามของรัฐบาลฮ่องกงที่จะสกัดความร้อนแรงของราคาบ้านอาจไม่ได้ผล

นายลีกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ฮ่องกงว่า บริษัท เฮนเดอร์สัน แลนด์ ดิเวลลอปเมนท์ ของเขา และบริษัท นิวเวิลด์ ดิเวลลอปเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทคู่ค้า จะทุ่มงบประมาณในโครงการสร้างที่พักอาศัยมูลค่า 9.6 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 1.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เฮนเดอร์สันยังลงทุนอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกงซื้อโครงสร้างอาคารเก่าเพื่อนำมาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัย

ข้อมูลของ Colliers International บ่งชี้ว่า ราคาบ้านระดับหรูหราในฮ่องกงพุ่งขึ้น 28% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่รัฐบาลฮ่องกงพยายามสกัดกั้นความร้อนแรงของราคาบ้านด้วยการออกกฏหมายการดาวน์บ้านหรูหราที่เข้มงวดมากขึ้น รวมทั้งประกาศยกเลิกการประกันเงินกู้จำนองสำหรับอสังหาริมทรัพย์เพื่อาการเช่าซื้อ โดยนายโดนัลด์ ซัง ประธานเขตปกครองพิเศษฮ่องกงได้แสดงความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังก่อตัวขึ้นในฮ่องกง

อย่างไรก็ตาม นายลีกล่าวว่า "กฏหมายเงินกู้เพื่อการซื้อบ้านฉบับใหม่ของรัฐบาลจะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อราคาบ้านพักระดับหรูหรา ผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนมีเงินและไม่จำเป็นต้องกู้ยืมเงินเพื่อซื้อบ้าน และราคาบ้านระดับหรูหราที่ปรับตัวสูงขึ้นก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของตลาดด้วย"

นายลียังกล่าวด้วยว่า "สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงยังคงผูกติดกับสกุลเงินดอลลาร์สหรํฐ ดังนั้นเมื่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนแอจึงทำให้ราคาสินทรัพย์ในฮ่องกงมีราคาถูกสำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ดีมานด์ที่อยู่อาศัยพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากคุณไม่ซื้อบ้านหรูหราเก็บไว้ในช่วงที่ดอลลาร์อ่อนค่าลง คุณก็จะเสียโอกาส และที่ผ่านมาบริษัทของผมได้ซื้อที่ดินไปแล้วมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง"

เมื่อไม่นานมานี้ เฮนเดอร์สันและนิวเวิลด์ตัดสินใจซื้อแปลงที่ดินการเกษตรจากรัฐบาลและนำมาแปลงเป็นโครงการที่อยู่อาศัยบนพื้นที่ 2.95 ล้านตารางฟุต

บลูมเบิร์กรายงานว่า ลี ชอ กี ติดอันดับ 3 ในฐานะบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของฮ่องกงจากการจัดอับดับของนิตยสารฟอร์บส์ที่ตีพิมพ์เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยเขามีสินทรัพย์ประมาณ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองจากนายลี คา ชิง และครอบครัวคว็อคซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท ซัน ฮุง ไก พร็อพเพอร์ตีส์



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ