การใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐหดตัวลงในเดือนกันยายน ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด
โดยกระทรวงพาณิชย์รายงานว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐหดตัวลง 0.5% ในเดือนกันยายน ซึ่งถือว่าหนักสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว หลังจากที่ขยายตัวถึง 1.4% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งในตอนนั้นโครงการรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ของรัฐบาลสหรัฐเพิ่งหมดอายุไป
ด้านรายได้ส่วนบุคคลขยับลง 100 ล้านดอลลาร์ หรือไม่ถึง 0.1% ในเดือนกันยายน หลังจากที่ขยายตัว 0.1% ในเดือนสิงหาคม
การใช้จ่ายที่ลดลงและรายได้ที่ทรงตัวดังกล่าวส่งผลให้การออมเงินส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นแตะ 3.556 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน จากระดับ 3.07 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม โดยอัตราการออมเงินอยู่ที่ระดับ 3.3% ในเดือนกันยายน เทียบกับ 2.8% ในเดือนสิงหาคม
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐเผยตัวเลขจีดีพีที่ขยายตัวเกินคาด 3.5% ส่งสัญญาณว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยสิ้นสุดลงแล้ว อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ยังคงเกรงว่าเศรษฐกิจจะไม่ฟื้นตัวอย่างยั่งยืนหากภาคครัวเรือนยังคงลดการใช้จ่ายเนื่องจากต้องแบกรับหนี้สินจำนวนมาก ท่ามกลางตลาดแรงงานที่ซบเซาและสภาพตลาดสินเชื่อที่ตึงตัว
ทั้งนี้ การใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งมีสัดส่วนราว 70% ของเศรษฐกิจสหรัฐ เป็นปัจจัยหลักที่สามารถบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจได้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน