ธปท.พร้อมร่วมมืออัยการ-ตร.ฟ้องเพิ่มหาก"ราเกซ"ซัดทอด

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 2, 2009 16:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาญชัย บุญฤทธิ์ไชยศรี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกฎหมายและคดี ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ยินดีให้ความร่วมมือกับอัยการและเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวในคดีทุจริตธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ(บีบีซี)หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจากการสู้คดีของนายราเกซ สักเสนา ผู้ต้องหาคนสำคัญ หรือกรณีที่นายราเกซให้การซัดทอดบุคคลอื่น

อย่างไรก็ตาม คดีที่เกี่ยวข้องกับบีบีซีทั้ง 29 คดีมีบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งชาวต่างชาติที่เกี่ยวข้องมีบุคคลที่เป็นนักค้าอาวุธ ซึ่งบีบีซีปล่อยกู้ให้เกินกว่าหลักทรัพย์ค้ำประกันมาก โดยหากในขั้นตอนที่อัยการเปิดให้นายราเกซโต้แย้งมีการซัดทอดบุคคลอื่น ๆ เพิ่มเติมก็จะมีการสืบพยานเพิ่มเพื่อฟ้องร้องผู้กระทำผิดต่อไป

"ในส่วนของแบงก์ชาติรอตำรวจและอัยการขอข้อมูลมาทั้งหลักฐานเอกสารและพยานบุคคล แต่ใน 29 คดีที่ฟ้องศาลแล้วนั้นได้ให้เอกสารไปหมดแล้ว แต่ถ้าหากมีจำเลยใหม่จากการซัดทอดของราเกซและราเกซต่อสู้คดี และมีการสืบพยานใหม่ แบงก์ชาติก็จะส่งเอกสารให้เพื่อหาผู้กระทำผิดเพิ่มเติม"นายชาญชัย กล่าว

คดีทุจริตบีบีซีมีทั้งสิ้น 29 คดี อยู่ในศาลชั้นต้น 15 คดีและศาลอุทธรณ์ 14 คดี หากแบ่งเป็นคดีที่ธปท.เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษมีจำนวน 23 คดี มูลค่าความเสียหายรวม 3.1 หมื่นล้านบาท โดยเป็นคดีที่อยู่ในศาลชั้นต้น 14 คดี อีก 9 คดีศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษแล้วและอยู่ระหว่างการอุทธรณ์

ส่วนคดีที่บีบีซีเป็นผู้ร้องทุกข์มีจำนวน 6 คดี มูลค่าความเสียหายรวม 1.4 หมื่นล้านบาท เป็นคดีที่อยู่ในศาลขั้นต้น 1 คดี คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษแล้ว 4 คดีและยกฟ้อง 1 คดี ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนอุทธรณ์

นายชาญชัย กล่าวว่า ในเบื้องต้นคดีที่นายราเกซตกเป็นจำเลยมี 4 คดี จาก 29 คดีที่ธปท.ฟ้อง โดยคดีแรกที่อัยการจะส่งฟ้องนายราเกซคือคดีที่ปล่อยกู้ให้กับซิติเทรดดิ้ง ซึ่งจะหมดอายุความราวกลางปี 53 โดยคดีดังกล่าวจำเลยคนสำคัญอีกคนหนึ่งคือ นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่บีบีซี ถูกศาลพิพากษาจำคุกไปแล้ว และจากการสืบพยานไม่มีบุคคลกระทำผิดร่วมอื่นอีก แต่หากมีการโต้แย้งจากราเกซและโยงบุคคลอื่นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะร่วมกันหาหลักฐานเพิ่มเติม

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการจะนำคดีทั้ง 29 คดีไปตรวจสอบอีกครั้งว่ามีความเกี่ยวข้องกับนายราเกซกี่คดี ก็จะฟ้องคดีที่บ่งชี้ว่ามีส่วนในการทุจริตอย่างชัดเจน ซึ่งคดีทั้งหมดจะหมดอายุความกลางปี 54 โดยธปท.คาดว่านายราเกซจะมีความเกี่ยวข้องประมาณ 20 คดี แต่จะถูกฟ้องร้องกี่คดีต้องดูผลของความเกี่ยวข้อง บางคดีอาจจะไม่ส่งฟ้องก็ได้

นายชาญชัย ยังเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ทำการอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องในคดีบีบีซีแล้วเป็นจำนวนมาก โดยเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในประเทศไทยทั้งที่ดิน อาคาร สิ่งปลูกสร้าง บัญชีเงินฝากในสถาบันการเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน ยานพาหนะ และหุ้น ประมาณ 100 รายการ

ขณะที่ทรัพย์สินในต่างประเทศนั้น มีการยึดและนำเข้ามาในไทยแล้วประมาณ 1,500 ล้านบาท อายัดทรัพย์สินที่สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ และ Guernsey มูลค่ารวมประมาณ 25 ล้านเหรียญ และอยู่ระหว่างการประสานงานกับประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน สาธารณรัฐเชก ฯลฯ เพื่อตรวจสอบและติดตามอีกประมาณ 300 ล้านเหรียญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ