ธนาคารโลกปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ขึ้นจากเดิมที่ 7.2% เป็น 8.4% พร้อมทั้งแนะว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน หากรัฐบาลเบนเข็มมาให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายผู้บริโภค มากกว่าที่จะมุ่งเน้นภาคอุตสาหกรรมและการลงทุน
การดีดตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนทำให้ธนาคารโลกเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกขึ้นอีก 1.3% เป็น 6.7% แม้ว่าจะยังมีความวิตกกังวลว่าภูมิภาคนี้จะยังเผชิญอุปสรรค และจะเติบโตได้เพียง 1% หากไม่นับการขยายตัวของจีน
ธนาคารโลกระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวดีขึ้นได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ส่งผลดีเกินคาด โดยเงินทุนจากมาตรการดังกล่าวส่วนใหญ่มักนำไปใช้ในการก่อสร้างทางหลวงและโครงการด้านสาธารณะอื่นๆ แต่ผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็วในปีหน้า โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่จะเผชิญแรงกดดันจากภาวะกำลังการผลิตล้นตลาด อันจะส่งผลให้ราคาสินค้าตกต่ำลงตามมา
อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางโลกกล่าวว่าจีนไม่ควรพึ่งภาคธุรกิจส่งออกและการลงทุนเพื่อผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่จำเป็นต้องกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคให้มากขึ้น
สำนักข่าวเอพีเปิดเผยรายงานของธนาคารโลกที่ระบุว่า "การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนในระยะกลางจะเกิดขึ้นจากการปรับสมดุลทางเศรษฐกิจ แต่การขยายตัวในระยะยาวนั้น ต้องอาศัยปัจจัยด้านอุปสงค์ภายในประเทศ ด้วยการหันมาให้ความสำคัญกับการบริโภคภายในประเทศมากกว่าการพัฒนาอุตสาหกรรมและการลงทุน"
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนมูลค่า 4 ล้านล้านหยวนระยะสองปีนั้นได้ช่วยให้เศรษฐกิจจีนดีดตัวขึ้นโดยเฉพาะในไตรมาส 3 ของปีนี้ที่ขยายตัว 8.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่เศรษฐกิจในสหรัฐ ยุโรปและญี่ปุ่นยังเผชิญภาวะถดถอย
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์คาดว่า จีนจะเป็นประเทศมหาอำนาจแห่งแรกที่รอดพ้นจากภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1930 ซึ่งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนได้ช่วยหนุนให้เศรษฐกิจของประเทศอื่นๆในเอเชียปรับตัวดีขึ้น จากอานิสงส์ของการสั่งซื้อสินค้าจากจีน