สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในค่อนข้างซบเซาเนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของสัญญาน้ำมันดิบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหลังจากมีรายงานว่าพายุเฮอร์ริเคน "ไอด้า" อ่อนกำลังลง
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดบวก 1.10 ดอลลาร์ แตะที่ 1,102.50 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1106.8-1099.5 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินลดลง 25.8 เซนต์ ปิดที่ 17.222 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงปรับตัวลงแตะระดับ 2.9615 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนสัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 16 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,348 ดอลลาร์/ออนซ์
จอร์แดน โคติค นักวิเคราะห์จาก Barclays Capital กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำค่อนข้างเงียบเหงาเนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ซึ่งทำให้นักลงทุนปลีกตัวออกจากตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงทองคำและน้ำมันดิบ เพราะดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะทำให้สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้มีราคาแพงขึ้น นอกจากนี้ การอ่อนกำลังลงของพายุไอด้าส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ร่วงลง ซึ่งส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำซบเซาลงด้วย
ขณะที่เดนนิส การ์ทแมน บรรณาธิการนิตยสาร Gartman Letter กล่าวแสดงความเห็นว่า "ตลาดทองคำมีแรงซื้อเข้ามามากเกินไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการซื้อเพื่อเก็งกำไร จึงมีความเป็นไปได้ที่สัญญาทองคำจะเข้าสู่ระยะพักฐานในเร็วๆนี้"
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลกได้ถือครองทองคำที่ระดับ 1,114.443 ตัน ณ วันที่ 9 พ.ย. เพิ่มขึ้น 6.099 ตัน หรือ 0.55 % จากวันที่ 5 พ.ย. โดยกองทุนได้ถือครองทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,134.03 ตัน เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.