นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เรียกร้องให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ให้คำมั่นสัญญาเรื่องการเปิดเสรีทางการค้าเช่นเดียวกับที่จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐเคยให้ไว้ในที่ประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) เมื่อปีที่แล้ว
"การประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่สิงคโปร์ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า เราจะไม่อดทนอดกลั้นต่อค่านิยมการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศต่อไป ผมชื่นชมนโยบายของอดีตประธานาธิบดีบุชที่ท่านสนับสนุนนโยบายการค้าเสรีอย่างจริงจัง และผมก็หวังว่าประธานาธิบดีโอบามาจะดำเนินการในแบบเดียวกัน" นายราซัคกล่าวที่สิงคโปร์ก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคจะเปิดฉากในวันพรุ่งนี้
อุตสาหกรรมการค้าทั่วโลกจับตาดูการเดินสายประเทศเอเชียของโอบามาอย่างใกล้ชิด โดยโอบามาเริ่มเดินทางเยือนญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกในวันนี้ จากนั้นจะเดินทางไปยังจีนและเกาหลีใต้ ขณะที่นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวว่า ประเทศคู่ค้าของสหรัฐในกลุ่มทรานส์แปซิฟิกจะได้ประโยชน์จากการเดินทางเยือนเอเชียของโอบามาอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้ช่องทางการค้าในเอเชียกว้างขึ้น
จากสถิติของอาเซียนพบว่า สหรัฐสูญเสียตำแหน่งประเทศที่มีอิทธิพลด้านเศรษฐกิจต่อเอเชียมากที่สุดให้กับจีนเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งที่เอเชียเป็นผู้มิภาคที่มีเส้นทางการเดินเรือเชื่อต่อกับเส้นทางการค้าส่วนใหญ่ของโลก รวมถึงการค้าถ่านหิน น้ำมันดิบ และสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ส่งผลให้มูลค่าการค้าระหว่างจีนและกลุ่มอาเซียนพุ่งขึ้นเกือบ 20 เท่า แตะที่ 1.79 แสนล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ปี 2536
ราซีน แซลลี ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการเมืองระหว่างประเทศแห่งยุโรป ในกรุงบรัสเซลส์ กล่าวว่า "โอบามาไม่ใช่ประธานาธิบดีที่มีหัวในด้านการเปิดเสรีการค้า และเขาก็ไม่ใช่นักนิยมการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศตนเองแบบหัวรุนแรง เขาเป็นประธานาธิบดีที่ไม่ค่อยกล้าตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในเรื่องการค้า"