ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์ร่วง หลังศก.ยูโรโซนหลุดพ้นภาวะถดถอย-ยอดเกินดุลการค้าสหรัฐพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ Saturday November 14, 2009 09:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปรายงานว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรหลุดพ้นจากภาวะถดถอยในไตรมาสสาม ประกอบกับการเปิดเผยตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐที่พุ่งสูงเกินคาดในเดือนก.ย. กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า อาทิ สกุลเงินต่างประเทศ

เงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.50% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ 1.4916 ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.61% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ที่ 1.6688 ดอลลาร์ จากระดับ 1.6586 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.83% เมื่อเทียบกับเยนที่ 89.630 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 90.380 เยน และร่วงลง 0.57% เมื่อเทียบกับเงินฟรังก์สวิสที่ 1.0118 ฟรังก์ จากระดับ 1.0176 ฟรังก์

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.50% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ 1.0502 จากระดับปิดของวันพฤหัสบดีที่ 1.0555

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แตะที่ 0.9337 จากระดับปิดของวันพฤหัสบดีที่ 0.9226 และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.57% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แตะที่ 0.7436 จากระดับ 0.7321

สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร 16 ประเศ กลับมาขยายตัวอีกครั้งที่ 0.4% ในไตรมาส 3 ซึ่งหมายความว่าเศรษฐกิจยูโรโซนได้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยแล้ว เช่นเดียวกับเศรษฐกิจญี่ปุ่นและสหรัฐ

ขณะที่เศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (อียู) โดยรวม ซึ่งรวมถึงประเทศที่ไม่ใช้สกุลเงินยูโร อาทิ อังกฤษ และ สวีเดน สามารถหลุดพ้นจากภาวะถดถอยได้แล้วเช่นกัน หลังจากขยายตัว 0.2% ในไตรมาสสาม

ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนก.ย.ได้พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปีถึง 18.2% แตะ 3.65 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าระดับ 3.08 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ระดับ 3.17 หมื่นล้านดอลลาร์

ข้อมูลนี้ได้ส่งผลกดดันให้เงินดอลลาร์ร่วงลง โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดมูลค่าสกุลเงินดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ร่วงลงมากกว่า 0.6% สู่ระดับต่ำสุดในการซื้อขายระหว่างวันที่ 75.225

นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นโดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนประจำเดือนพ.ย. ร่วงลงมาอยู่ที่ 66.0 จากระดับ 70.6 ในเดือนต.ค. ซึ่งได้จุดกระแสความกังวลว่า การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐอาจล่าช้ากว่าประเทศอื่นๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ