"เมอส์กไลน์" ยักษ์ใหญ่เดินเรือเชื่อธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเลฟื้นตัวปีหน้า

เอ.พี.โมลเลอร์-เมอส์ก เอ/เอส (A.P. Moeller-Maersk A/S) กลุ่มบริษัทขนส่งทางเรือรายใหญ่ที่สุดในโลกของเดนมาร์กกล่าวว่า ธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเลจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในปีหน้า ขณะที่อัตราค่าระวางเรืออาจปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการเดินเรือควบคุมปริมาณการรับสินค้า

อีวินด์ โคลดิง ซีอีโอของเมอส์กไลน์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเอ.พี.โมลเลอร์-เมอส์ก เอ/เอส กล่าวว่า ปริมาณการขนส่งสินค้ามีแนวโน้มขยายตัวขึ้น 3% แตะที่ระดับ 8% ในปีหน้า เนื่องจากตลาดผ่านพ้นช่วงปีแรกของภาวะถดถอยนับตั้งแต่มีการจัดระเบียบการขนส่งสินค้าทางเรือทั่วโลกในปี 1970

"ธุรกิจเดินเรือมีแนวโน้มฟื้นตัว ส่วนปริมาณและอัตราการขนส่งสินค้าก็ขยายตัวดีกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย ดังนั้น เรายังโตได้อีกไกล แต่ขณะเดียวกันก็ต้องปรับลดค่าใช้จ่ายต้นทุนลงมากกว่าเดิม" โคลดิงกล่าว

อย่างไรก็ตาม จากปริมาณการขนส่งสินค้าที่ส่อเค้าลดลง 10% ในปีนี้ ทำให้บริษัทเดินเรือเลื่อนคำสั่งต่อเรือลำใหม่ ขณะที่การใช้เรือที่มีอยู่เดิมไม่ค่อยมีประสิทธิภาพมากนัก ซึ่งอาจส่งผลให้ระยะเวลาการขนส่งล่าช้า ซึ่งในกรณีนี้อาจทำให้อัตราค่าระวางเรือโดยเฉลี่ยที่ลดลง 30% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้พุ่งสูงขึ้นในปีหน้า

บลูมเบิร์กรายงานว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรปในไตรมาส 3 หลุดพ้นจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยหุนจากการส่งออกที่ขยายตัว

ทั้งนี้ โคลดิงคาดว่า ภาคอุตสาหกรรมขนส่งจะถึงจุดที่มีความสมดุลของกลไกทางตลาดด้านอุปสงค์และอุปทานภายในปี 2556 ซึ่งเร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมิ.ย.ถึง 2 ปี นอกจากนี้ บริษัทเดินเรือที่มีฐานเงินทุนในระดับต่ำจะกลับมาทำกำไรจากการดำเนินธุรกิจได้ภายในปี 2556 แม้ว่าในปีนี้ บริษัทเดินเรือรายใหญ่สุดของโลกทั้ง 25 แห่งจะไม่สามารถทำกำไรได้เลยก็ตาม