เงินดอลลาร์สหรัฐและเงินเยนของญี่ปุ่นเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ที่ซื้อขายกันในตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียววันนี้ หลังดัชนี Topix ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน เนื่องจากหลายบริษัทลดสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำครั้งรุนแรง ขณะที่เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่าลง
บลูมเบิร์กรายงานว่า เงินดอลลาร์ไต่ระดับขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ 1.4924 ยูโร/ดอลลาร์ ส่วนเงินเยนแข็งค่าขึ้น % เมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ระดับ 133.04 ยูโร/เยน
ด้านเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆหลังจากที่พรรคฝ่ายค้านในประเทศแสดงความเห็นคัดค้านถึงการกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อของธนาคารกลาง
ณ เวลา 12:31 ตามเวลาท้องถิ่นในโตเกียว ดัชนี Topix ตกลง 1.8% แตะที่ระดับ 834.85 จุด และทำสถิติอ่อนตัวลงยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. หลังจากที่มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป อิงค์ และโนมูระ เรียล เอสเตท ประกาศขายหุ้น
ทั้งนี้ หุ้นของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ร่วงลง 4.1% หลังบริษัทประกาศแผนการขายหุ้นเพื่อระดมทุนสูงถึง 1 ล้านล้านเยน หรือ 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากที่หน่วยงานด้านการกำกับดูแลได้ขอให้มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ เพิ่มปริมาณการสำรองเงินทุนมากกว่านี้ ส่วนหุ้นของโนมูระ เรียล เอสเตท หดตัว 7% หลังบริษัทมีแผนระดมทุน 1.15 หมื่นล้านเยนผ่านการขายหุ้นที่ออกใหม่
รายงานจากเมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค ของแบงก์ ออฟ อเมริกา รายงานว่า สัดส่วนของนักลงทุนที่ต้องการกว้านซื้อหุ้นในตลาดโตเกียวปีหน้า ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2545 เมื่อเทียบกับจำนวนนักลงทุนที่มีแผนเทขายหุ้นในเดือนนี้ นอกจากนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังฉุดรั้งภาพรวมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียหลังจากที่เผชิญภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยทางรัฐบาลสิงคโปร์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในปีหน้าจะขยายตัวได้สูงสุดที่ระดับ 5%
"ขณะนี้ไม่มีเหตุผลใดที่ทำให้นักลงทุนต้องเข้ามาเล่นตลาดหุ้นในญี่ปุ่น" มิตซูชิเกะ อากิโนะ นักวิเคราะห์จาก Ichiyoshi Investment Management Co กล่าว "นักลงทุนในประเทศกำลังมองหาช่องทางการลงทุนในประเทศอื่นๆมากกว่า เพราะอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่นยังไม่ชัดเจน"