รมว.พลังงาน เผยขณะนี้ปริมาณการนำเข้าก๊าซหุงต้ม(LPG) จากต่างประเทศมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เนื่องมีการนำไปใช้เป็นพลังงานทดแทนหลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่กำลังการผลิตในประเทศมีจำกัด
"ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นทำให้มีการใช้ก๊าซหุงต้มเป็นพลังงานทดแทนมากขึ้น ประกอบกับการที่โรงแยกก๊าซธรรมชาติโรงที่ 6 ของ ปตท.ยังไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ เพราะติดปัญหาการฟ้องร้องเรื่องมาบตาพุด ทำให้การใช้ก๊าซหุงต้มสูงเกินคาดการณ์" นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าว
ในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมามีปริมาณการนำเข้าก๊าซ LPG กว่า 1 แสนตัน และหากโรงแยกก๊าซฯ ยังติดปัญหาก็อาจทำให้การนำเข้าก๊าซ LPG มีปริมาณสูงในระดับนี้ตลอดปีหน้า ซึ่งเป็นภาระของประเทศ
ทั้งนี้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องมีแบกรับภาระรายจ่ายส่วนต่างในการนำเข้าก๊าซและราคาจำหน่ายในประเทศให้กับ บมจ.ปตท.(PTT) และกระทรวงพลังงานกำลังพิจารณาเพิ่มเพดานส่วนต่างการนำเข้าจาก 500 ล้านบาท/เดือน เป็น 800 หรือ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน ขณะเดียวกัน ปตท.ได้ลงทุนรับก๊าซ LPG จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นในลักษณะคลังลอยน้ำด้วย
ส่วนกรณีที่รัฐบาลพม่าได้แจ้งจะหยุดส่งก๊าซธรรมชาติเนื่องจากปิดซ่อมบำรุงเป็นเวลา 20 วัน จากปกติที่จะส่งก๊าซธรรมชาติให้ในปริมาณ 500 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ทางกระทรวงพลังงานได้สั่งการให้โรงไฟฟ้าทั้งบีแอลซีพี และแม่เมาะ ผลิตไฟฟ้าเสริมจากถ่านหิน และหากยังไม่เพียงพอก็จะเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากน้ำและน้ำมัน เพื่อไม่ให้ส่งกระทบต่อค่าไฟฟ้าของประชาชน