โพลล์หอการค้าเผยปชช.สนใจโครงการแก้หนี้นอกระบบ แต่หวั่นใจแก้ไม่ได้จริง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 19, 2009 15:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางยาใจ ชูวิชา ประธานคณะจัดทำการสำรวจความคิดเห็นประเด็นธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจสถานะภาพหนี้ภาคครัวเรือนทั่วประเทศ 1,202 คน ระหว่างวันที่ 6-13 พ.ย.พบว่าส่วนใหญ่ 57.26% สนใจเข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาล เพราะมองว่าจะช่วยลดภาระดอกเบี้ย ทำให้มีเงินเหลือเก็บ มีเงินจับจ่ายใช้สอย และมีเงินลงทุนทำธุรกิจเพิ่มขึ้น

ส่วนอีก 42.74% ไม่สนใจเข้าร่วมโครงการ

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่แสดงความเห็น 37.5% มองว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาหนี้นอกระบบได้น้อย และ 35% เห็นว่าแก้ปัญหาได้แค่ในระดับปานกลาง ส่วนที่ตอบว่าจะแก้ไขปัญหาได้มากมีอยู่แค่ 9.6% และมากที่สุดมีเพียง 0.2% เท่านั้น

สำหรับภาระหนี้ของครัวเรือนในปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ยครัวเรือนละ 147,542 บาท เพิ่มขึ้น 2.8% จากต้นปี 52 คิดเป็นเพิ่มขึ้น 3,000 บาท/ครัวเรือน แบ่งเป็นหนี้ในระบบ 42.6% และหนี้นอกระบบ 57.4% มีอัตราผ่อนชำระเดือนละ 9,654 บาท โดยสาเหตุที่หนี้เพิ่มขึ้น เพราะมีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ ประกอบกับ ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องหันไปหาแหล่งเงินกู้นำมาใช้ให้จ่ายในชีวิตประจำวัน ลงทุน ซื้อยานพาหนะ และซื้อบ้าน

ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่กังวลว่าการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาลอาจไม่ได้ผล เพราะรัฐบาลไม่มีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง หรือบางรายไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และมีหนี้สูงกว่าวงเงินที่รัฐกำหนด ทำให้ขาดโอกาสในการเข้าร่วมโครงการ

"เห็นด้วยกับมาตรการแก้ไขหนี้นอกระบบของรัฐ แม้รูปแบบจะคล้ายประชานิยม และไม่ส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจมากนัก แต่เข้าถึงประชาชนได้จริง ทำให้ลดรายจ่ายจากดอกเบี้ย และมีการออม การใช้จ่ายมากขึ้น เชื่อว่านโยบายนี้มีโอกาสประสบความสำเร็จ เพราะรัฐใช้สถาบันการเงินรัฐช่วยขับเคลื่อน ซึ่งมีระบบการจัดการและบริหารความเสี่ยงดี ทำให้โอกาสเกิดหนี้ NPL มีน้อยไม่ถึง 10%" นายธนวรรธน์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ