บขส.ดีเดย์เพิ่มเส้นทางเชื่อมลาว โคราช-เวียงจันทน์ 1 ธ.ค.รับแข่งซีเกมส์

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 19, 2009 16:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานกรรมการ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า บขส. เตรียมเปิดให้บริการเดินรถระหว่างประเทศไทยกับและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว)ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ สายที่ 6 เส้นทางนครราชสีมา-นครเวียงจันทน์ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนที่ต้องการชมการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ซึ่งสปป.ลาวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 9-1 8 ธ.ค.นี้ โดยบขส.จะให้บริการทุกวันๆละ 2 เที่ยว อัตราค่าโดยสารคนละ 320 บาท หรือ 81,600 กีบ

ทั้งนี้ มั่นใจว่าเส้นทางดังกล่าวจะได้รับความนิยมจากประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ทั้งเป็นช่วงการแข่งขันซีเกมส์ และช่วงฤดูท่องเที่ยว ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติใช้บริการจำนวนมาก คาดว่าจะมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารกว่า 50% จึงไม่น่าประสบปัญหาขาดทุนในช่วงแรกเหมือนเส้นทางระหว่างประเทศอื่นที่เปิดให้บริการไปก่อนหน้านี้

"ปีนี้คาดว่าจะมีกำไรจากการให้บริการเส้นทางระหว่างประเทศทั้งหมดปีละประมาณ 3 ล้านบาท แต่สิ่งที่ไทยจะได้รับในภาพรวม คิดเป็นมูลค่ามากกว่านี้หลายเท่า เช่น รายได้จากการใช้จ่ายของประชาชนลาวที่นิยมเข้ามาซื้อสินค้าในไทย และใช้บริการรักษาพยาบาลในไทย โดยเส้นทางระหว่างประเทศที่ได้รับความนิยมมากคือ มุกดาหาร-สะหวันนะเขต ซึ่งมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร 100% "นายปิยะพันธ์ กล่าว

นายปิยะพันธ์ กล่าวอีกว่า บขส.ยังมีแผนเปิดให้บริการเดินรถไปยังจุดหมายปลายทางอื่นในสปป.ลาว ในอนาคต เช่น วังเวียง ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่มีศักยภาพ แต่ปัจจุบันยังมีข้อจำกัดเรื่องถนนที่ยังไมค่อยมีความสะดวกนัก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ซึ่งจะมีปัญหามาก และอาจส่งผลต่อให้สภาพรถโดยสารของบขส.ได้รับความเสียหาย

สำหรับเส้นทางระหว่างประเทศ ที่ไทยเปิดให้บริการก่อนหน้านี้ 5 เส้นทาง คือ เส้นทางหนองคาย-นครเวียงจันทร์ ในปีที่ผ่านมามีปริมาณผู้โดยสารรวม 7.7 หมื่นคน มีรายได้ 4.2 ล้านบาท, เส้นทางอุดรธานี-นครเวียงจันทร์ มีปริมาณผู้โดยสารรวม 8.2 หมื่นคน มีรายได้ 6.5 ล้านบาท เส้นทางมุกดาหาร-สะหวันนะเขต มีปริมาณผู้โดยสารรวม 2. แสนคน มีรายได้รวม 9.4 ล้านบาท เส้นทางอุบลราชธานี-เมืองปากเซ มีปริมาณผู้โดยสารรวม 2.5 หมื่นคน มีรายได้รวม 5.1 ล้านบาท และเส้นทางขอนแก่น-นครเวียงจันทร์ มีปริมาณผู้โดยสารรรวม 1.6 หมื่นคน มีรายได้รวม 5.1 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ