สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังนักลงทุนเริ่มกลับมาให้ความสนใจในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนพฤศจิกายน ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะลดลงในอัตราน้อยสุดในรอบกว่า 1 ปี
เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าหลังจากที่ราคาทองคำซึ่งเป็นวัตถุดิบส่งออกที่มีค่ามากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ทะยานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ดัชนีชี้วัดราคาเหล็กก็ทะยานสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2551 เมื่อวานนี้ ด้านเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายนเมื่อวานนี้ หลังจากที่บริษัท ฟอนเทอร์รา โคออปเปอเรทีฟ กรุ๊ป ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมรายใหญ่สุดของโลก เปิดเผยว่าราคาประมูลนมผงพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน
เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่า 0.2% แตะ 92.64 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ณ เวลา 11.38 น.ตามเวลาซิดนีย์ จากระดับ 92.50 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อวานนี้ และแข็งค่า 0.2% แตะ 80.31 เยน/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จาก 80.18 เยน/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ขณะเดียวกันเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่า 0.2% แตะ 72.73 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 72.59 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และแข็งค่าแตะ 63.06 เยน/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 62.92 เยน/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียมีแนวโน้มแข็งค่าสู่ระดับ 93 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อาจแข็งค่าแตะ 72.90 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์