เงินยูโรและเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้าวันนี้ หลังจากที่ประเทศกรีซถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวจุดชนวนให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า กลุ่มประเทศยุโรปบางแห่งจะถูกปรับลดอันดับเครดิตด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความวิตกกังวลว่า บริษัทของดูไบจำเป็นต้องขายสินทรัพย์ของสหรัฐเพื่อชำระหนี้ตามสัญญาที่กำหนดไว้
ขณะเดียวกัน เงินเยนร่วงลงสวนทางกับที่พุ่งขึ้นในช่วงเช้า ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะใช้มาตรการผ่อนคลายสินเชื่อมากขึ้น หลังรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศทบทวนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ซึ่งขยายตัวในอัตรา 1.3% ต่อปี ต่ำกว่าที่ประเมินไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ว่าขยายตัว 4.8% เนื่องจากภาคเอกชนลดการใช้จ่ายเพราะถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
โดยในช่วงสายวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว เงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.4700 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.4704 ดอลลาร์/ยูโรในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวานนี้ ด้านเงินปอนด์ร่วงลงมาอยู่ที่ 1.6253 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.6287 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนเงินเยนซื้อขายกันที่ 130.21 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 130.03 ยูโร/ดอลลาร์
ด้านนักวิเคราะห์มองว่า ขณะนี้ตลาดถูกปกคลุมด้วยความวิตกกังวลว่า หลายประเทศในยุโรปอาจถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่ถือ หลังจากที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ปรับลดอันดับเครดิตของกรีซลงมาอยู่ที่ BBB+ โดยมีแนวโน้มเป็นลบ นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับการเลื่อนชำระหนี้ของดูไบ เวิลด์อาจทำให้บริษัทต้องขายสินทรัพย์ของสหรัฐออกมา ดังนั้น เงินดอลลาร์จึงน่าจะได้รับแรงซื้อเข้ามามากขึ้น ขณะที่เงินยูโรจะถูกเทขายออกมาในระยะนี้