นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกประจำเดือนพ.ย.ของหสรัฐจะขยายตัวขึ้น 0.6% ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ภายในระยะเวลา 4 เดือน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าผู้บริโภคมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้นด้วย ขณะเดียวกันคาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนธ.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 68.8 จุด จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 67.4 จุด
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคไตรมาส 4 ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 1.7% ต่อปี ซึ่งมากกว่าที่คาดการ์ไว้ก่อนหน้านี้ และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 3% ในไตรมาส 4 หลังจากขยายตัว 2.8% ในไตรมาส 3
ภาคครัวเรือนของสหรัฐยังคงจับจ่ายใช้สอย รวมถึงซื้อรถยนต์ แม้ว่าโครงการนำรถยนต์เก่าแลกรถยนต์ใหม่ของรัฐบาลหมดอายุลงแล้วก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถฟ้นฝ่าวิกฤตการณ์ต่างๆไปได้ รวมถึงอัตราว่างงานที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 10% นอกจากนี้ การที่รัฐบาลภายใต้การนำของบารัค โอบามา มีความมุ่งมั่นที่จะกระตุ้นการจ้างงานก็จะยิ่งช่วยให้ภาคค้าปลีกของสหรัฐฟื้นตัวเร็วขึ้นด้วย
ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) เดือนพ.ย.ลดลง 11,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 120,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเดือนพ.ย.ลดลงสู่ระดับ 10% จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 10.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีครึ่ง
ส่วนเมื่อคืนนี้ ยอดผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นเกินคาด 17,000 ราย แตะที่ 474,000 ราย หลังจากที่ตัวเลขดังกล่าวร่วงลงมานานถึง 5 สัปดาห์ติดต่อกัน ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนพ.ย.ในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย