อลัน กรีนสแปน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวให้สัมภาษณ์ทางรายการ “Meet the Press" ของสถานีโทรทัศน์ NBC โดยเขาคาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากบริษัทเอกชนเริ่มขยายการผลิตเพื่อรองรับดีมานด์และการขยายตัวของเศรษฐกิจ หลังจากที่ได้ลดการจ้างงานลงจำนวนมากในช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
"ภาคเอกชนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการณ์การเงินและเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และได้ลดการจ้างงานลงจำนวนมาก แต่ผมเชื่อว่าตัวเลขจ้างงานได้ดิ่งลงจนถึงก้นเหวแล้ว และคาดว่าภาคเอกชนจะเพิ่มการจ้างงานในเร็วๆนี้เนื่องจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาคเอกชนจะเพิ่มปริมาณการผลิตเพื่อรองรับดีมานด์ที่ฟื้นตัวขึ้น" กรีนสแปนกล่าว
อย่างไรก็ตาม กรีนสแปนมองว่าแม้ภาคเอกชนเพิ่มการจ้างงาน แต่อัตราว่างงานยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะระบบเศรษฐกิจสหรัฐจำเป็นต้องมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 100,000 คนต่อเดือน จึงจะสอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเพียงพอที่จะฉุดอัตราว่างงานให้ลดลงได้
ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) เดือนพ.ย.ของสหรัฐลดลง 11,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 120,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเดือนพ.ย.ลดลงสู่ระดับ 10% จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 10.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีครึ่ง
เฟดคาดการณ์ว่าอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 9.3 - 9.7% ซึ่งลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 9.5 - 9.8% ทั้งนี้ เฟดคาดว่าตลาดแรงงานของสหรัฐต้องใช้เวลาอีกราว 5 -6 ปีจึงกลับสู่ภาวะปกติ