นายฮวน โฮเซ่ ดาบ็อบ กรรมการผู้จัดการของธนาคารโลกแสดงความเชื่อมั่นว่า ทางการจีนจะตระหนักถึงภัยคุกคามของภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ในระบบเศรษฐกิจ โดยกล่าวว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทุกรูปแบบมีความเสี่ยงเสมอหากเป็นมาตรการที่ใช้วงเงินสูงเกินไปหรือใช้ในระยะเวลาที่นานเกินไป ซึ่งจีนกำลังเผชิญปัญหานี้อยู่
เศรษฐกิจจีนขยายตัวในอัตรา 8.9% ในไตรมาส 3 หลังจากสถาบันการเงินของจีนปล่อยเงินกู้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และหลังจากรัฐบาลใช้มาตรการฟื้นฟูวงเงินสูงถึง 5.86 แสนล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งก็ช่วยให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยได้
ดาบ็อบกล่าวว่า อันที่จริงแล้วจีนและอินเดียได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกน้อยกว่าอีกหลายประเทศ แต่ธนาคารโลกก็เชื่อว่ารัฐบาลจีนจะเข้าใจถึงความเสี่ยงของภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ และจะใช้มาตรการที่เหมาะสมในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว เหมือนกับที่เคยทำในอดีตที่ผ่านมา
"ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยสิ้นสุดลงแล้ว และเศรษฐกิจก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นในขณะนี้ แม้จะยังไม่ขยายตัวเท่ากับในช่วงก่อนเกิดวิกฤตการณ์ก็ตาม" ดาบ็อบกล่าวนอกเหนือจากตัวเลขจีดีพีที่ขยายตัว 8.9% ในไตรมาส 3 แล้ว ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ของจีนยังขยายตัวขึ้น 15.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับ 1.13 ล้านล้านหยวน หรือ 1.66 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.ขยายตัวขึ้น 19.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี