ครม.ปรับโครงสร้างภาษีนำเข้าวัตถุดิบบางประเภทเพิ่มความสามารถแข่งขันเอกชน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 22, 2009 15:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรปัจจัยการผลิตเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อแก้ปัญหาความลักลั่นของโครงสร้างภาษีนำเข้าระหว่างอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ

โดยเห็นชอบให้ปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรวัตถุดิบ ปัจจัยการผลิตเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยจำนวน 9 ประเภทย่อย ประกอบด้วย การปรับลดอัตราภาษีเมล็ดโกโก้ จาก 30% เหลือ 5% ,สิ่งสกัดจากมอลต์ ให้ยกเว้นภาษีอากร จากปัจจุบันกำหนดอัตราภาษี 35%, ยกเว้นภาษีอากร สินแร่ หัวแร่ทองแดง จากปัจจุบันกำหนดอัตราภาษี 10% , ยกเว้นภาษีอากร ก้านไม้ขีด จากปัจจุบันกำหนดอัตราภาษีที่ 40%, ยกเว้นภาษีอากร เฉพาะถังบรรจุก๊าซธรรมชาติ จัดทำด้วยเหล็กกล้า จากปัจจุบันกำหนดอัตราภาษีที่ 17% โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 ม.ค.52-31 ธ.ค.53

นอกจากนี้ ให้ขยายระยะเวลาการยกเว้นอากรขาเข้าถังบรรจุก๊าซธรรมชาติประเภทถังเหล็ก จำนวน 4 ประเภทย่อย และปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำรายการสินค้าที่มีการปรับปรุงโครงสร้างอัตราขาเข้าไปแล้ว จำนวน 3 ประเภทย่อย

การปรับปรุงโครงสร้างภาษีศุลกากรวัตถุดิบ ปัจจัยการผลิตตามข้อเสนอดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในประเทศ เนื่องจากวัตถุดิบ ปัจจัยการผลิตดังกล่าว ปัจจุบันยังไม่มีการผลิตในประเทศหรือมีการผลิตได้ในประเทศ แต่มีความจำเป็นต้องนำเข้าเนื่องจากมีปริมาณการผลิตที่ไม่เพียงพอ

อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า การปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราภาษีศุลกากรดังกล่าว จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ ปีละ 35 ล้านบาท แต่เมื่อพิจารณาถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในภาพรวมที่ประเทศได้รับ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย ให้สามารถแข่งขันได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตในส่วนของภาระภาษีนำเข้าลดลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ