นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) คาดว่า การส่งออกในปี 53 น่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10% โดยเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นในตลาดอาเซียน และประเทศที่ทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี(FTA)ไว้ร่วมกัน เช่น จีน อินเดีย ขณะที่ตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ยังมีความเปราะบางในเรื่องของเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งต้องรอดูว่าจะมีทิศทางเป็นเข่นไร
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมัน และอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าเงิน หากหลายประเทศมีการดำเนินการดังกล่าวอีกก็เป็นเรื่องที่ประเทศไทยควรที่จะพิจารณาปรับลดค่าเงินบาทเช่นกัน เพื่อให่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้
ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ปีนี้ภาคอุตสาหกรรมของไทยมีอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 60% และคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 65-70% ในปีหน้า เนื่องจากหลายอุตสาหกรรมมีอัตราการเจริญเติบโตดีขึ้น เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์ อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวเนื่องกับแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้าง เป็นต้น
ส่วนการบริโภคภายในประเทศนั้นมีปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้น 2 เรื่อง คือ ราคาสินค้าเกษตรกรรมที่ดีขึ้น ทำให้เกษตรกรมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น และการใช้งบตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ที่ทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น