นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยในปี 2553 มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น แต่ภาคเอกชนก็ต้องปรับตัว และระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจ โดยยังมีความเสี่ยง และความไม่แน่นอน ที่เป็นปัจจัยกดดัน โดยเฉพาะความผันผวนของตลาดการเงินที่อาจจะมีต่อเนื่อง ซึ่ง ธปท.จะดูแลความผันผวนตามความจำเป็นไม่ให้เป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจของเอกชน แต่การปรับตัวของภาคเอกชนยังมีความจำเป็น
"แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2553 เป็นบวก แต่ก็ไม่ควรประมาท เพราะยังมีความไม่แน่นอน ขอให้ภาคเอกชนตระหนักและดำเนินการอย่างระมัดระวัง"นายบัณฑิต กล่าว
นายบัณฑิต กล่าวว่า ภาคเอกชนต้องพึ่งตนเอง บริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ เนื่องจากต้นทุนทางการเงินมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น หลังจากที่มาตรการต่างๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจของต่างประเทศเริ่มลดลง และความผันผวนของตลาดการเงินก็มีมากขึ้น ขณะเดียวกันเอกชนต้องหาโอกาสในการทำธุรกิจในจังหวะที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ซึ่งเอกชนจะแข่งขันด้านต้นทุนอย่างเดียวไม่ได้ ต้องหาลู่ทางการค้าการลงทุน และต้องเตรียมรับมือกับการแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้านที่จะเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย