ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดเงินบาทสัปดาห์หน้า (18-22 ม.ค.53) ยังไม่มีปัจจัยที่มีผลต่อสภาพคล่องในตลาดเงินอย่างมีนัยสำคัญ อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจึงน่าจะยังทรงตัวต่อเนื่องใกล้ระดับ 1.25% โดยคาดว่าเงินบาทในประเทศเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-33 บาท/ดอลลาร์
ทั้งนี้ปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ ข้อมูลส่งออกไทยเดือน ธ.ค.2552 รายงานโดยกระทรวงพาณิชย์ ทิศทางของสกุลเงิน ตลาดหุ้นในภูมิภาค และสัญญาณการเข้าดูแลเสถียรภาพค่าเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขณะที่ ทิศทางของเงินดอลลาร์สหรัฐอาจขึ้นอยู่กับการรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/52 ของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ช่น ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินสหรัฐเดือน พ.ย.52 ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือน ธ.ค.52 ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ม.ค.53 รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ทั้งนี้ ตลาดการเงินสหรัฐ จะปิดทำการในวันทร์ที่ 18 ม.ค.เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
ทั้งนี้เงินบาทในประเทศ สัปดาห์ที่ผ่านมา (11-15 ม.ค.) แข็งค่าทะลุแนวต้าน 33 บาท/ดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 19 เดือนใกล้ 32.80 บาท/ดอลลาร์ แม้จะมีแรงซื้อเงินดอลลาร์ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าเป็นการเข้าดูแลตลาดอัตราแลกเปลี่ยนของ ธปท.เพื่อลดความผันผวนของเงินบาท
อย่างไรก็ตาม เงินบาทยังคงปรับตัวแข็งค่าเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ เช่นเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาคท่ามกลางปัจจัยลบที่กดดันเงินดอลลาร์ เช่น ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอเกินคาด จากยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค.ที่หดตัวลง ขณะที่ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งตอกย้ำแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นอกจากนี้ เงินบาทยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากแรงขายเงินดอลลาร์ หลังเงินบาทแข็งค่าทะลุระดับสำคัญทางจิตวิทยา เพื่อตัดขาดทุนจากกลุ่มผู้ส่งออก และการเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติอีกด้วย
ด้าน บล.กสิกรไทย ประเมินทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ในสัปดาห์หน้าว่า ดัชนี อาจจะแกว่งตัวขึ้นในกรอบแคบ โดยมีแรงหนุนจากการเข้าซื้อหุ้น เพื่อเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 4/52 ในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และต้องติดตามการรายงานตัวเลขการค้าระหว่างประเทศ หรือ การส่งออกในเดือน ธ.ค.ของกระทรวงพาณิชย์ รวมถึง ประเด็นทางการเมือง และความคืบหน้า กรณีมาบตาพุด
ส่วน ปัจจัยทางต่างประเทศ ยังต้องติดตามค่าเงินดอลลาร์ การเคลื่อนไหวราคาน้ำมัน การปรับตัวของตลาดหุ้นในภูมิภาค ทั้งนี้ โดยได้ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีในสัปดาห์หน้า มีแนวรับที่ 710-744 จุด และแนวต้านที่ 752-758 จุด