ไทยและกองทุนระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม (IFAD : International Fund for Agricultural Development)ร่วมจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ“การเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศไทยกับ IFAD…โอกาสและความท้าทาย” โดยไทยและ IFAD จับมือร่วมทำยุทธศาสตร์การเป็นหุ้นส่วนเพื่อขจัดปัญหาความยากจนภายในประเทศ พร้อมขยายความช่วยเหลือไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
นายศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการฯในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมหารือแนวทาง ข้อมูล และรายละเอียดในการจัดทำยุทธศาสตร์ความเป็นหุ้นส่วน เพื่อขยายความร่วมมือไปยังประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ เพื่อขจัดความยากจน ช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาที่ยังประสบปัญหาด้านการเกษตรและความยากจน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 53
ทั้งนี้ ประโยชน์ที่ไทยจะได้จากการร่วมมือดังกล่าว คือ การพัฒนาบุคลากรของประเทศไทยทั้งด้านความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และเครื่องมือต่าง ๆ รวมทั้งสามารถนำไปใช้พัฒนาถ่ายทอดต่อให้ประเทศเพื่อนบ้านได้อีกด้วย
อนึ่ง IFAD เป็นองค์กรชำนัญพิเศษขององค์การสหประชาชาติทางด้านการเงินเพื่อเกษตรกรรมโดยเฉพาะ จัดตั้งขึ้นในปี 21 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกใน การพัฒนาการเกษตร ขจัดความยากจนและความหิวโหย ตลอดจนเพื่อการโภชนาการในรูปของเงินกู้ และความช่วยเหลือแบบให้เปล่า ทางด้านต่างๆ อาทิ การศึกษา วิจัย ฝึกอบรม และ การจัดเตรียมโครงการพัฒนาการเกษตรของประเทศสมาชิก โดยมีแหล่งเงินทุนจาการบริจาคของประเทศสมาชิก รายได้จากเงินที่ให้กู้ และรายได้จากเงินลงทุน
นายศักดิ์๙ย กล่าวว่า ไทยและ IFAD มีความร่วมมือร่วมกันในหลาย ๆ ด้าน เช่น การจัดซื้อสินค้าและบริการจากประเทศไทย การเปิดโอกาสให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการจัดการประชุมระดับภูมิภาค อีกทั้ง ไทยเคยกู้เงินจำนวน 62.7 ล้านเหรียญสหรัฐจาก IFAD ในปี 21-30 เพื่อดำเนินโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาการเกษตรและชนบท รวมถึง IFAD ยังได้จัดสรรงบประมาณเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการติดตามและประเมินผลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรทำให้มีการดำเนินงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด
และปัจจุบันไทยยังได้รับเงินสนับสนุนจาก IFAD ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของครัวเรือนในชนบทของประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง โครงการยุทธศาสตร์ด้านพลังงานทดแทนในชนบทของประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง และโครงการบริหารจัดการน้ำในประเทศลุ่มแม่น้ำโขง เป็นต้น
นายศักดิ์ชัย กล่าวต่อไปว่า จากการที่ประเทศไทยมีบทบาทต่อประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเดียวกันในด้านการจัดฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ และด้านการกระตุ้นให้ปรับนโยบายการพัฒนา และมีส่วนร่วมในโครงการระดับภูมิภาคของ IFAD โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลุ่มแม่น้ำโขง ทำให้ IFAD เล็งเห็นศักยภาพของไทยในการร่วมมือกันขยายความช่วยเหลือเพื่อขจัดความยากจนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จึงเกิดแนวคิดในการจัดทำยุทธศาสตร์การเป็นหุ้นส่วนกับไทยขึ้น