นางจุไรรัตน์ ปันยารชุน กรรมการผู้จัดการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย(บสท.)เปิดเผยว่า แผนยุทธศาสตร์สำหรับช่วงเวลา 16 เดือนที่เหลือของ บสท.ก่อนยุบเลิกองค์กร จะดำเนินนโยบายเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้รวมทั้งสิ้น 32,650 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการจัดเก็บหนี้ จำนวน 22,550 ล้านบาท และรายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย อีกจำนวน 10,100 ล้านบาท
บสท. จะเน้นใช้กลยุทธ์ในการกำกับดูแล ติดตามการปฏิบัติตามแผนปรับโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้ที่เข้มข้น เช่น การแบ่งพอร์ตลูกหนี้ในขนาดที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถกำกับดูแลและติดตามได้อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ลูกหนี้รายใหญ่ประมาณ 50 บัญชีต่อคน การให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ จะได้ประสานความร่วมมือกับสถาบันการเงินของรัฐให้รับรีไฟแนนซ์ลูกหนี้ที่มีศักยภาพ มีประวัติการชำระหนี้ดี เพื่อเป็นการส่งต่อลูกหนี้ที่ดีคืนสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยคิดส่วนลดภาระหนี้อัตราพิเศษ โดยใช้กลยุทธ์ส่งเสริมกิจกรรมการขายทุกรูปแบบเพื่อกระตุ้นยอดขาย จัดทีมบริหารการขายเฉพาะทรัพย์แต่ละประเภท
รวมทั้งวางแผนการขายแบบเฉพาะเจาะจง ด้วยการจัดงานมหกรรมคัดทรัพย์สินที่มีศักยภาพเสนอขายแก่นักลงทุนในราคาพิเศษ และสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐและเอกชน เพื่อนำทรัพย์ไปใช้ประโยชน์ หรือสร้างความร่วมมือในเชิงพันธมิตรธุรกิจ และมีเป้าหมายเชิงรุกเดินสาย Road Show ต่างจังหวัดให้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ จากที่ผ่านมาได้ Road Show ไปแล้ว 54 จังหวัด
ส่วนของภารกิจเพื่อการยุบเลิกตามกฎหมายได้จัดทำแผนงานเตรียมการเลิกดำเนินกิจการยุบเลิก และนำเสนอกระทรวงการคลังแล้ว และได้จัดประชุมสถาบันผู้โอนทั้ง 23 แห่ง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในการร่วมรับผิดชอบผลกำไร/ขาดทุนที่จะเกิดขึ้นจากการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ของ บสท. เพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับแนวทางในการบริหารจัดการสินทรัพย์คงเหลือ
สถาบันการเงินผู้โอนส่วนใหญ่มีความเห็นให้ขายสินทรัพย์คงเหลือของ บสท. ให้กับ บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ (บสก.) และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บสส.) โดยให้สิทธิ First Right กับสถาบันผู้โอนเดิม ซึ่งขณะนี้ บสท. อยู่ระหว่างนำเสนอความเห็นของสถาบันการเงินผู้โอนต่อกระทรวงการคลัง หลังจากที่กระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบ บสท. จะเริ่มจัดกองประมูลขายสินทรัพย์ประเภทลูกหนี้รวมกับสิทธิเรียกร้อง และ NPA ต่อไป คาดว่าน่าจะเป็นประมาณไตรมาส 3/53
สำหรับผลการดำเนินงานปี 52 บสท. มีรายได้รวมจากการบริหารงานทั้งสิ้น 27,499 ล้านบาท คิดเป็น 155.89% ของเป้าหมาย แบ่งเป็นรายรับจากการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 16,309 ล้านบาท และรายรับจากการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) อีกจำนวน 11,190 ล้านบาท
มียอดสินทรัพย์คงเหลือจำนวน 172,173 ล้านบาท ประกอบด้วยเงินชำระตามแผนการปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 49,921 ล้านบาท มูลค่าทรัพย์สินระหว่างบังคับหลักประกัน จำนวน 30,678 ล้านบาท และทรัพย์สินรอการขาย จำนวน 91,574 ล้านบาท และช่วง 8 ปี ที่ผ่านมา บสท. ส่งผ่านลูกหนี้ที่สุจริตและมีศักยภาพกลับสู่ระบบสถาบันการเงินตามปกติ ได้ทั้งสิ้นจำนวน 3,555 ราย คิดเป็นมูลค่าทางบัญชี 122,816 ล้านบาท
บสท.ได้นำเงินรับที่ได้จากการบริหารงานไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 21,690 ล้านบาท ทำให้ ณ สิ้นปี 52 สามารถลดภาระหนี้สาธารณะของประเทศและจากการค้ำประกันตั๋วสัญญาใช้เงินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ด้วยการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินในส่วนของเงินต้นแล้ว 161,261 ล้านบาท คิดเป็น 65.07% ของมูลค่าตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกทั้งหมด 247,844 ล้านบาท และได้ชำระดอกเบี้ยจ่ายของตั๋วสัญญาใช้เงินอีกจำนวน 20,349 ล้านบาท ทำให้คงเหลือตั๋วสัญญาใช้เงินในส่วนของเงินต้นจำนวน 86,583 ล้านบาท