สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอีกเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าอย่างต่อเนื่องจากความวิตกเรื่องหนี้รัฐบาลในยุโรป ขณะที่สัญญาโลหะเงินและพลาตินัมก็ทรุดลงเช่นกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 10.20 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 1,052.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่ในระหว่างวันแตะระดับ 1,044.50 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 52 เซนต์ ปิดที่ 14.83 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 2.15 เซนต์ ปิดที่ 2.8575 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมเดือนเม.ย. ร่วงลง 40.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,475.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 398.25 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 10.15 ดอลลาร์
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงแห่เข้าซื้อดอลลาร์อย่างต่อเนื่องเพราะเห็นว่าปลอดภัยกว่าเงินยูโรที่มีความเสี่ยง จากกรณีที่ประเทศกรีซ โปรตุเกส และสเปนมียอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อตลาดโลหะด้วย
เงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ โดยในช่วงปิดตลาดทองคำนิวยอร์ก ดัชนีเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดมูลค่าเงินดอลลาร์เทียบกับ 6 สกุลเงินหลัก ปรับตัวขึ้น 0.605 แตะ 80.68 และแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนที่ 80.82 หลังจากปิดตลาดทองคำ
ขณะเดียวกันวานนี้ กระทรวงแรงงานเปิดเผยรายงานตัวเลขจ้างงานลดลง 20,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. สวนทางกับที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น ส่วนอัตราว่างงานลดลงเหนือความคาดหมายแตะ 9.7% จาก 10% ในเดือนธ.ค. ซึ่งข้อมูลที่บ่งชี้ถึงสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจนี้เป็นปัจจัยต่อการขายทองคำและโลหะเชิงอุตสาหกรรมเช่นกัน