สมาคมประกันชีวิตไทย เผยเบี้ยประกันชีวิตรับรวม ม.ค.-ธ.ค.52 มีทั้งสิ้น 259,161.4 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 16.8% จากระยะเดียวกันจากปีก่อน ซึ่งเกินเป้าหมายที่วางไว้ที่ 15.6% โดยแยกเป็นเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่จำนวน 87,815.3 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 27.8% และเบี้ยประกันภัยปีต่อไป 171,346.1 ล้านบาท อัตราการเติบโต 11.8% โดยมีอัตราความคงอยู่ 87%
นางบุษรา อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ประมาณการอัตราการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตในปี 53 จะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% ด้วยปัจจัยบวกของธุรกิจประกันชีวิตเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา และมีปัจจัยที่พิเศษเพิ่มขึ้น คือ การที่สำนักงาน คปภ. มีนโยบายที่จะผลักดันให้มีการออกกรมธรรม์ประกันภัยแบบบำนาญเลี้ยงชีพรองรับสังคมชราภาพของไทย และกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อประชาชนระดับฐานรากทั่วราชอาณาจักร(Micro Insurance) เพื่อเข้าถึงคนไทยผู้มีรายได้น้อยในระดับหมู่บ้านได้มากขึ้น
ส่วนการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตในปี 52 เป็นอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจและการเมือง โดยรวมคาดว่าเศรษฐกิจไทยหดตัว 2.7% แต่ธุรกิจประกันชีวิตสามารถผ่านวิกฤตต่างๆจนเติบโตได้ถึง 16.8% สำหรับอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ประกันชีวิตอยู่ในอัตรา 87%
ส่วนสาเหตุที่ธุรกิจประกันชีวิตยังคงมีการเติบโตในทิศทางบวกอย่างต่อเนื่องในปี 52 เป็นผลมาจากการที่บริษัทประกันชีวิตมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างหลากหลาย ต่อเนื่องและครบวงจรตลอดช่วงชีวิต ทั้งด้านความคุ้มครอง การออม และการลงทุน รวมทั้งมีการแข่งขันกันประชาสัมพันธ์อย่างแพร่หลายระหว่างบริษัทประกันภัย การเพิ่มจำนวนและคุณภาพของตัวแทนประกันชีวิต การพัฒนาช่องทางการจำหน่ายโดยเฉพาะการขายผ่านทางธนาคาร และการที่กระทรวงการคลังเพิ่มจำนวนค่าลดหย่อนภาษีเงินได้จากเบี้ยประกันชีวิต จาก 50,000 บาท เป็น 100,000 บาท
สถิติเบี้ยประกันภัยรับในปี 52 มีดังนี้ เบี้ยประกันภัยรับรวม 12 เดือนมีทั้งสิ้น 259,161.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนจำนวน 37,192.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16.8% บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ อันดับที่ 1 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 86,311.8 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาด 33.3% อันดับ 2 บจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 35,487.7 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาด 13.7%
อันดับที่ 3 บจ.เมืองไทยประกันชีวิต จำนวน 21,541.2 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาด 8.3% อันดับที่ 4 บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต จำนวน 19,912.8 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาด 7.7% และ อันดับที่ 5 บมจ.ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำนวน 19,487.1 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาด 7.5%
ส่วนเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ กรณีพิจารณาการขยายงานตลอดปี 52 จะพิจารณาจากจำนวนเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ 12 เดือน ซึ่งเบี้ยประกันภัยรับตั้งแต่ม.ค.-ธ.ค.52 มีทั้งสิ้น 87,815.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนจำนวน 19,076.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 27.8%
บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่รวมสูงสุด หรือมีการขยายงานสูงสุด 5 อันดับแรก คือ อันดับที่ 1 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 18,391.9 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาด 20.9% อันดับที่ 2 บจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 11,501.5 ล้านบาท สัดส่วนการตลาด 13.1% อันดับที่ 3 บจ.ธนชาตประกันชีวิต จำนวน 10,890.7 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาด 12.5% อันดับ 4 บจ.เมืองไทยประกันชีวิต จำนวน 9,243.4 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาด 10.5% และอันดับ 5 บมจ.ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำนวน 7,640.3 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาด 8.7%
กรณีพิจารณาถึงการขยายงานในเดือนใดเดือนหนึ่งเพียงเดือนเดียว ถ้าพิจารณาเฉพาะการขยายงานในเดือน ธ.ค.52 จะพิจารณาจากจำนวนเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ เบี้ยประกันภัยจะมีทั้งสิ้น 9,002.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนจำนวน 1,175.25 ล้านบาท หรือ 15.02%