บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ระบุว่า ในปี 2553 จะเป็นโอกาสขยายตลาดสินค้าไทยในอาเซียนที่ได้อานิสงส์จากการเปิดเสรีทางการค้าภายใต้กรอบ AFTA ที่ลดภาษีสินค้าปกติระหว่างกันเหลือ 0% โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าจากไทยไปอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่และมีประชากรมากที่สุดในอาเซียน ประกอบกับมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างโดนเด่นในภูมิภาคนี้ ทำให้คาดว่าความต้องการบริโภคของอินโดนีเซียจะเพิ่มมากขึ้นตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ
"การเติบโตทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียที่โดดเด่นในภูมิภาคอาเซียน ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมาและยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ทำให้มีความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น คาดว่าจะส่งผลให้อินโดนีเซียมีความต้องการนำเข้าสินค้าเพื่อการผลิตและการบริโภคจากไทยขยายตัวตามไปด้วย" เอกสารเผยแพร่ระบุ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า โอกาสการขยายตัวของสินค้าไทยในอินโดนีเซียที่เกิดจากการเปิดเสรีภายใต้กรอบ AFTA น่าจะช่วยให้การส่งออกของไทยไปอินโดนีเซียกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ในปีนี้หลังจากต้องประสบภาวะหดตัวถึง 26% ในปีที่ผ่านมาตามภาวะซบเซาของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอินโดนีเซียให้การเติบโตชะลอลง
สำหรับการส่งออกของไทยไปยังอินโดนีเซียที่คาดว่าจะขยายตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าส่งออกสำคัญที่มีสัดส่วนถึง 60% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งหมดจากไทยไปยังตลาดอินโดนีเซีย ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ, น้ำตาลทราย, เคมีภัณฑ์, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ, เครื่องยนต์, เม็ดพลาสติก, เหล็กและผลิตภัณฑ์, เครื่องปรับอากาศ และเครื่องสำอาง เป็นต้น ขณะเดียวกันสินค้าอื่นที่ไทยยังส่งออกได้น้อยก็ถือเป็นโอกาสขยายการส่งออกได้เช่นกันจากการปรับลดภาษีในครั้งนี้ เช่น สินค้าอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น
จากภาวะเศรษฐกิจอินโดนีเซียที่เติบโตต่อเนื่องประกอบกับระดับราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มสูงขึ้นส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นทำให้คาดว่าทางการอินโดนีเซียอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบ ซึ่งอาจส่งผลต่อต้นทุนการประกอบธุรกิจและกดดันการบริโภคในประเทศให้ชะลอตัวไปบ้าง แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าในปีนี้เศรษฐกิจของอินโดนีเซียยังมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นจากปี 2552 ซึ่งน่าจะช่วยการส่งออกของไทยไปอินโดนีเซียกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ในปีนี้
โดยทิศทางการปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจโลกและความสามารถด้านการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของทางการอินโดนีเซีย จะทำให้เศรษฐกิจอินโดนีเซียมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นจาก 4.5% ในปี 2552 มาเป็น 5.5-6.0% ในปีนี้