บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์การเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า(8-12 มี.ค.)ว่า เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.80 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ สถานการณ์การเมืองในประเทศ, สัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของไทยจากผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สัญญาณการเข้าดูแลเสถียรภาพค่าเงินของธปท. และทิศทางของสกุลเงิน ทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค
ส่วนทิศทางของเงินดอลลาร์ฯ อาจขึ้นอยู่กับประเด็นเกี่ยวกับวิกฤตการคลังของกรีซที่ยังคงยืดเยื้อต่อไป ตลอดจนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.(เบื้องต้น), ยอดค้าปลีก ดุลการคลังเดือนก.พ., ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ, ข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่ง-ภาคธุรกิจเดือนม.ค. และรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
อย่างไรก็ดี ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทในประเทศ(Onshore) แข็งค่าสุดในรอบ 21 เดือน ใกล้ระดับ 32.60 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทได้รับแรงหนุนสำคัญตลอดสัปดาห์จากแรงซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ การขยับแข็งค่าของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคก็เป็นปัจจัยหนุนค่าเงินบาทด้วยเช่นกัน โดยเมื่อวันศุกร์(5 มี.ค.) เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 32.60 บาท/ดอลลาร์