นายยี่ กัง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีนและผู้อำนวยการสำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐ (SAFE) กล่าวว่า จีนจะยังไม่นำทองคำในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศออกมาลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง เนื่องจากราคาทองคำในตลาดโลกยังอยู่ในระดับที่มีความเสี่ยงมาก แม้ว่าราคาทองคำทะยานขึ้นแข็งแกร่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ราคาทองก็มีความผันผวนมากเช่นกัน
จีนได้เพิ่มทองคำสำรอง 454 ตัน เป็น 1,054 ตันตั้งแต่ปี 2546 ทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่มีทองคำสำรองสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของโลก คิดเป็นมูลค่าที่อ้างอิงจากราคาปัจจุบันที่ 3.79 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่อินเดียและรัสเซียได้เพิ่มทองคำสำรองในปีที่แล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ ณ เวลา 12.15 น.ตามเวลาสิงคโปร์ ราคาทองคำในตลาดสปอตร่วงลง 0.3% แตะ 1,119.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ 1,121.44 ดอลลาร์/ออนซ์
รองผู้ว่าแบงค์ชาติจีนกล่าวว่า จีนยังไม่มีแนวโน้มที่จะนำทองคำสำรองออกมาลงทุนเพื่อเป็นรายได้หลักในขณะนี้ เนื่องจากตลาดทองคำโลกยังมีขนาดเล็ก ดังนั้นการเข้าซื้อทองคำจะส่งผลให้ราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งขึ้นด้วย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ซื้อทองคำของจีนเช่นกัน โดยปัจจุบันภาคเอกชนของจีนถือครองทองคำอยู่กว่า 3,000 ตัน