ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรดีดขึ้นเทียบดอลล์ หลังรัฐบาลกรีซประกาศแผนลดยอดขาดดุลเพิ่มเติม

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) หลังจากรัฐบาลกรีซประกาศใช้มาตรการลดยอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มเติม ซึ่งครอบคลุมถึงการลดเงินเดือนข้าราชการและปรับขึ้นภาษี ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์และยอดขาดดุลการค้าที่ปรับตัวลดลง

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.13% แตะที่ 1.3677 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.3659 ยูโร/ดอลลาร์ และเงินปอนด์ขยับขึ้น 0.50% แตะที่ 1.5056 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.4981 ปอนด์/ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 90.550 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 90.510 เยน/ดอลลาร์ แต่ร่วงลง 0.10% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0687 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0698 ฟรังค์/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดขึ้น 0.02% แตะที่ 0.9148 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพุธที่ 0.9146 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.17% แตะที่ 0.7004 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7016 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ค่าเงินยูโรฟื้นตัวขึ้นหลังจากนายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีของกรีซประกาศใช้มาตรการลดยอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มเติม ซึ่งครอบคลุมถึงการลดเงินเดือนข้าราชการและปรับขึ้นภาษี อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ดังกล่าวส่งผลให้สหภาพแรงงานชาวกรีซก่อหวอดประท้วงอีกเป็นครั้งที่ 2 โดยตั้งเป้าปิดให้บริการโรงพยาบาล สนามบิน และโรงเรียน

ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 มี.ค. ลดลง 6,000 ราย แตะที่ 462,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ 468,000 ราย และรายงานที่ว่าสหรัฐขาดดุลการค้า 3.73 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ลดลง 6.6% จาก 3.99 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นผลจากการปริมาณการนำเข้าน้ำมันลดลงสู่จุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีพ.ศ.2542