กรมตรวจบัญชีสหกรณ์วางยุทธศาสตร์การเงินสร้างมูลค่าเพิ่มภาคสหกรณ์ไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 12, 2010 15:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยเนื่องในโอกาสครบรอบ 58 ปี แห่งการสถาปนากรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีบทบาทสำคัญในฐานะหน่วยงานที่ดำเนินการตรวจสอบ กำกับดูแล เสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเงินให้แก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร เพื่อลดปัญหาความเสี่ยง และป้องกันมิให้เกิดผลเสียหายขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน อันจะนำมาซึ่งความเชื่อถือศรัทธาแก่บรรดาสมาชิกและสร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์ในระยะยาว ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้มุ่งผลักดันการพัฒนาสหกรณ์ให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป

ทั้งนี้ จากฐานข้อมูลภาคสหกรณ์ไทย ปี 2552 มีสถาบันภาคสหกรณ์รวมกว่า 13,000 แห่ง สมาชิกรวมกันกว่า 10 ล้านคน มีทุนดำเนินงานทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนไม่น้อย ดังนั้น กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ต้องเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภาคสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง ภายใต้แนวทางการมุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มธุรกิจภาคสหกรณ์ไทย พัฒนาสถาบันเกษตรกรให้มีมาตรฐานบัญชีที่เหมาะสมกับธุรกิจ ตลอดจนพัฒนาระบบเตือนภัยทางการเงินของสหกรณ์ และพัฒนาระบบการจัดทำแผนกลยุทธ์ของสหกรณ์

ด้านนายอนันต์ ภู่สิทธิกุล อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์เดินหน้าทำงานเชิงสร้างสรรค์มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มธุรกิจภาคสหกรณ์ไทย บนพื้นฐานภาวะเศรษฐกิจทางการเงิน โดยวางแนวทางใช้แผนกลยุทธ์ทางการเงินของสหกรณ์ ที่เกิดจากการคิดวิเคราะห์บนพื้นฐานของเครื่องมือตรวจสอบทางการเงิน ให้เป็นหัวใจสำคัญสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาคสหกรณ์ไทยทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม นำความเชื่อถือศรัทธาแก่บรรดาสมาชิกและสร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์ในระยะยาว

ทั้งนี้ หากมองในภาพรวมของสหกรณ์ภาคการเกษตรจำนวน 3,655 แห่ง จากทั่วประเทศในปี 2552 มีวงเงินการจัดการ 3 ธุรกิจหลักรวมกันกว่า 120,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายมูลค่ากว่า 55,000 ล้านบาท ธุรกิจรวบรวมผลผลิตและแปรรูป มูลค่ากว่า 65,000 ล้านบาท และธุรกิจให้บริการ มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท

ดังนั้น หากสหกรณ์ภาคการเกษตรสามารถคิดวิเคราะห์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจของตน ด้วยการวางแผนกลยุทธ์ทางก๊ารเงินรายปี โดยผ่านกระบวนการทางมาตรฐานบัญชีและเครื่องมือตรวจสอบทางการเงินที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์พัฒนาขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วยโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร (Cooperative Full Pack Accounting Software : FAS) โปรแกรมตรวจสอบบัญชีสหกรณ์เชิงลึก (Cooperative Audit Through System : CATS) การวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจ 6 มิติ (CAMELS Analysis) เครื่องมือเฝ้าระวังและเตือนภัยทางการเงิน (Cooperative Financial Surveillance and Warning System : CFSAWS:ss) และเครื่องมือตรวจสอบมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจและสังคม (Social Economic Value Added : SEVA) นอกจากจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมแล้ว ยังจะช่วยรักษาเสถียรภาพทางการเงิน ตลอดจนลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ สามารถวางแผนทางการเงินล่วงหน้าให้กับกลุ่มธุรกิจของตนได้อีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ