นายฉัตรชัย ชูแก้ว ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมเห็นชอบข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์ ที่เสนอให้เปิดจุดตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรในจ.สงขลา เพื่อแก้ปัญหาราคาตกต่ำ และป้องกันไม่ให้ชาวนาประท้วงปิดถนนเหมือนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมอบหมายให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวเปลือกตามราคาอ้างอิงที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศทุก 7 วัน และส่งมอบข้าวเปลือกให้โรงสีในภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง โดยรัฐบาลเป็นผู้รับภาระค่าขนส่ง
"รมว.พาณิชย์มอบหมายให้ผม ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และผู้อำนวยการอคส.เร่งรัดตรวจสอบ และประสานงานการเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือกในจ.สงขลา จึงประสานกับสมาคมโรงสีข้าวไทย ให้นำโรงสีในพื้นที่ภาคกลางได้แก่ จ.นครปฐม เพชรบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี และโรงสีภาคเหนือตอนล่าง เข้าไปช่วยรับซื้อให้ เพราะโรงสีในพื้นที่ขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถรับซื้อข้าวจากเกษตรกรได้"นายฉัตรชัยกล่าว
ทั้งนี้การเปิดจุดรับซื้อข้าวในพื้นที่จ.สงขลา จะเริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเพื่อช่วยเหลือชาวนาให้ทันท่วงที เพราะขณะนี้ผลผลิตข้าวเปลือกในสงขลาออกสู่ตลาดแล้ว 20,000 ตัน และคาดว่าในเดือนเม.ย.-พ.ค.นี้ จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มอีกกว่า 50,000 ตัน หากรัฐบาลไม่ทำอะไรจะทำให้ราคาข้าวตกต่ำยิ่งขึ้น สำหรับเกษตรกรที่ต้องการเข้าโ ครงการ หรือมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สำนักงานการค้าภายในจ.สงขลา หรือสายด่วน 1569 สำหรับราคาข้าวที่ อคส.และ อ.ต.ก.ตั้งโต๊ะรับซื้อ ณ จุดรับซื้อของรัฐบาลตามมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปี 52/53 ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 9,033 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานีตันละ 10,550 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 10% ตันละ 8,833 บาท และข้าวเปลือกเจ้า 25% ตันละ 8,433 บาท
อนึ่ง สัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มเกษตรกรจ.สงขลากว่า 200 คน ได้รวมตัวประท้วงปิดถนนสายเอเชีย เชื่อมระหว่าง จ.สงขลา และ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อกดดันให้โรงสีข้าวรับซื้อข้าวเปลือกในราคาไม่ต่ำกว่าตันละ 8,500 บาท โดยไม่หักความชื้น และสิ่งเจือปน พร้อมเรียกร้องให้ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาพบ เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาว เพราะที่ผ่านมา เกษตรกรถูกโรงสีใช้ปัญหาความชื้น และสิ่งเจือปน มาเป็นข้ออ้างกดราคารับซื้อ จนทำให้ขายข้าวได้ราคาต่ำกว่าตลาด และขาดทุน