สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและราคาบ้านที่สูงขึ้นของสหรัฐบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้น จึงทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อทองคำ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ระดับ 1,105.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 5.80 เคลื่อนตัวในช่วง 1,102.40-1,114.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 17.330 ดอลลลาร์/ออนซ์ ลดลง 5.70 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 2.8 เซนต์ ปิดที่ 3.5635 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,626.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 5.40 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนมิ.ย.ปิดที่ 470.35 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 4.65 ดอลลาร์
สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 52.5 จุด จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 46.4 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 50 จุด ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ ที่ระบุว่า ราคาบ้านใน 20 เขตเมืองใหญ่ๆปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่แปด
ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น จึงทำให้ความต้องการถือครองทองคำลดน้อยลง เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าทองคำเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจเผชิญกับภาวะถดถอย กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าถือครองทองคำที่ระดับ 1,129.823 ตัน ณ วันที่ 29 มี.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับของวันที่ 25 มี.ค.ที่ 5.176 ตัน