สำนักงานเพื่อการพัฒนาเมืองของสิงคโปร์รายงานในวันนี้ว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.1% ในไตรมาสแรกปีนี้ ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สาม แม้รัฐบาลพยายามควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่ให้ขยายตัวร้อนแรงเกินไปก็ตาม
รายงานระบุว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งหลังจากหดตัวลง 25% ในรอบ 12 เดือน จนถึงช่วงกลางปี 2552 เนื่องจากเศรษฐกิจสิงคโปร์ฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอย ขณะที่ผู้นำสิงคโปร์ได้แสดงความกังวลที่ราคาบ้านพุ่งขึ้นรุนแรงและรวดเร็วเกินไป พร้อมกับออกมาตรการต่างๆเพื่อควบคุมการลงทุนแบบเก็งกำไรระยะสั้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์
โดยเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศเรียกเก็บภาษีการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยประมาณ 1-3% ภายในระยะเวลา 1 ปีของการซื้อ และได้ลดเพดานอัตราส่วนวงเงินกู้จำนองต่อมูลค่าหลักประกัน (loan-to-value) ลงสู่ระดับ 80% จากเดิม 90% สำหรับผู้ที่ต้องการขอกู้เงินเพื่อการซื้อบ้าน นอกจากนี้ ทางรัฐบาลยืนยันว่าจะเปิดให้สาธารณชนจองซื้อที่ดินของรัฐมากขึ้น เพื่อเพิ่มซัพพลายที่อยู่อาศัยในตลาด
ไนท์ แฟรงก์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของประเทศในเอเชียพากันตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษบกิจ แต่การคงดอกเบี้ยที่ไว้ที่ระดับต่ำนานเกินไปส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมลดลงและเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ โดยเมื่อปีที่แล้วราคาอสังหาริมรัพย์ชั้นดีในเซี่ยงไฮ้พุ่งขึ้น 52% ราคาอสังหาริมทรัพย์ในกรุงปักกิ่งพุ่งขึ้น 47% และในฮ่องกงทะยานขึ้น 41%