นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยขณะนี้ยังอยู่ในระดับต่ำ และยังไม่เป็นข้อจำกัดต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ เพราะอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังต่ำกว่ากรอบเป้าหมายของ ธปท.ที่ระดับ 0.5-3.0% อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งปีหลังอัตราเงินเฟ้อน่าจะเร่งตัวขึ้น เป็นผลจากราคาสินค้าและเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้น แต่ก็เป็นสิ่งที่ ธปท.คาดการณ์ไว้แล้ว
สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมี.ค.53 อยู่ที่ระดับ 3.4% มาจากแรงกดดันด้านราคาอาหารและราคาน้ำมัน แต่ก็เป็นตัวเลขที่ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 3.7% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งเป็นกรอบทำนโยบายการเงินนั้นเร่งตัวจาก 0.3% มาที่ 0.4% เป็นผลจากแรงกดดันด้านราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน
นายบัณฑิต กล่าวว่า ขณะนี้อัตราเงินเฟ้อไม่ได้เร่งตัวมากนัก ขณะที่เศรษฐกิจก็ฟื้นตัวต่อเนื่อง เพราะกำลังการผลิตส่วนเกินอยู่สูงมาก บวกกับยังมีมาตรการภาครัฐที่อุดหนุนราคาสินค้าเกษตร แต่หลังจากสิ้นสุดมาตรการช่วยค่าครองชีพของประชาชนในเดือน มิ.ย.ก็อาจจะทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ประกอบกับการขยายตัวเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นก็จะเป็นแรงกดดันต่อราคาสินค้าด้วย
ทั้งนี้ ซึ่ง ธปท.จะรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ บวกปัจจัยแวดล้อมมาพิจารณากำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินวันที่ 21 เม.ย.นี้