ธนาคารโลกได้เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีในวันนี้ว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 6.2% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 3.5% อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกกล่าวว่า แม้ว่าจะมีสัญญาณการฟื้นตัวของดีมานด์ภายในประเทศ แต่การถอนมาตรการกระตุ้นการคลังที่พิจารณาบนพื้นฐานของการอุปโภคบริโภค และความไม่แน่นอนทางการเมือง อาจจะเป็นปัจจัยที่เหนี่ยวรั้งการขยายตัวของเศรฐกิจไทย
ส่วนเงินเฟ้อในปีนี้นั้นอาจจะอ่อนตัวลงเมื่อพิจารณาจากดีมานด์ภายในประเทศที่ซบเซา และอัตราดอกเบี้ยก็จะปรับตัวขึ้นในระดับปานกลางและเป็นการปรับตัวขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่มีต่อแนวโน้มเงินเฟ้อนั้นคือตลาดแรงงานที่ตึงตัว ขณะที่บริษัทเอกชนได้รายงานเรื่องความยากลำบากในการหาแรงงาน และการพึ่งพาแรงงานต่างชาติมากขึ้น
รายงานของเวิลด์แบงค์ยังระบุด้วยว่า ธนาคารกลางแห่งประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะจำกัดการแข็งค่าของเงินบาทท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า ไทยอาจจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขันกับจีน เนื่องจากจีนยังคงตรึงค่าเงินหยวนไว้ที่ระดับต่ำเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2551