สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินและวิกฤตการณ์การเงินของกรีซ จึงแห่ซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการที่นายโธมัส โฮนิก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัส ซิตี้ แนะนำให้เฟดคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดให้พิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 17.00 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,153.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,133.30-1,154.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 18.199 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 26.80 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงเดือนพ.ค.ลดลง 1.95 เซนต์ ปิดที่ 3.5975 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,723.20 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 18.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 512.35 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.85 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์จาก Vision Financial Markets ในเมืองเดนเวอร์ของสหรัฐกล่าวว่า นักลงทุนยังคงถือครองสัญญาทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่สถานการณ์ด้านการเงินของกรีซยังไม่พ้นวิกฤต โดยมีรายงานว่ารัฐบาลกรีซร้องการให้มีการปรับเงื่อนไขการกู้ยืมเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพราะกังวลไอเอ็มเอฟอาจตั้งเงื่อนไขที่เข้มงวดมากเกินไป
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้เข้าถือครองทองคำที่ระดับ 1,129.823 ตัน ณ วันที่ 6 เม.ย. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของวันที่ 29 มี.ค.