นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในเดือน มี.ค.53 มีทั้งสิ้น 116,000 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 21,268 ล้านบาท คิดเป็น 22.4% ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคและการนำเข้าสูงกว่าประมาณการจำนวนมาก โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 3 อันดับแรก ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีน้ำมัน และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ทั้งนี้ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 53 (ต.ค.52-มี.ค.53) มีทั้งสิ้น 675,488 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 128,896 ล้านบาท คิดเป็น 23.6% โดย 3 กรมจัดเก็บภาษีจัดเก็บรายได้สูงกว่าเป้าหมาย
โดยกรมสรรพากร จัดเก็บได้รวม 476,179 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 58,170 ล้านบาท คิดเป็น 13.9% ภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 43,034 ล้านบาท เป็นผลจากการบริโภคและการนำเข้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 12,722 ล้านบาท เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีจากฐานเงินเดือนและฐานอสังหาริมทรัพย์ได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้
กรมสรรพสามิต จัดเก็บได้รวม 207,395 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 61,254 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิต น้ำมัน สุรา เบียร์ และยาสูบ เมื่อเดือน พ.ค.52 และยังจัดเก็บภาษีรถยนต์ได้สูงกว่าประมาณการถึง 15,911 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผู้ประกอบการมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่และโครงการส่งเสริมการขาย ส่งผลให้ยอดจำหน่ายรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างมาก
กรมศุลกากร จัดเก็บได้รวม 47,807 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 10,682 ล้านบาท เนื่องจากอากรขาเข้าจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ จากมูลค่าการนำเข้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง การนำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินบาทมีการขยายตัวสูง อย่างไรก็ตามการจัดเก็บอากรขาเข้าได้รับผลกระทบจากข้อตกลงเขตการค้าเสรีต่างๆ เช่น เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ที่ลดอัตราอากรขาเข้าสำหรับสินค้านำเข้าจากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนเหลือ 0% เกือบทุกรายการ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.53
รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้ 35,485 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 3,149 ล้านบาท คิดเป็น 9.7% เนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กองทุนรวมวายุภักษ์ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และธนาคารออมสินนำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการ แต่โรงงานยาสูบ นำส่งรายได้ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากนำเงินไปใช้ในการก่อสร้างโรงงานยาสูบแห่งใหม่ และ บมจ.การบินไทย (THAI) ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ เนื่องจากมีผลประกอบการขาดทุน
หน่วยงานอื่น จัดเก็บได้รวม 41,422 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,568 ล้านบาท คิดเป็น 3.9% เนื่องจากในเดือน ต.ค.-พ.ย.52 มีรายได้จากการไถ่ถอนหุ้นกู้ด้วยสิทธิที่ครบกำหนดของกระทรวงการคลังจำนวน 3,447 ล้านบาท
ส่วนการคืนภาษีของกรมสรรพากรมีจำนวน 111,444 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 4,309 ล้านบาท หรือ 4% ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 80,218 ล้านบาท และการคืนภาษีอื่นๆ 31,226 ล้านบาทเนื่องจากการคืนภาษีเงินได้นิติบุคคลที่อยู่ในระดับที่สูง
นายสาธิต กล่าวว่า จากผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 53 ที่สูงกว่าเป้าหมายและแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้กระทรวงการคลังมั่นใจว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ปีงบประมาณ 53 เป็นจำนวนกว่า 1.5 ล้านล้านบาท หรือสูงกว่าประมาณการ 170,000 ล้านบาท