(เพิ่มเติม1) กนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยอาร์/พีไว้ที่ 1.25% ยืนยันปรับขึ้นในระยะต่อไป

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 21, 2010 14:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.25% ต่อไป โดย กนง.ยืนยันที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายให้เข้าสู่ระดับปกติในระยะต่อไป

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้ประเมินผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองในการทบทวนคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ที่จะแถลงในวันที่ 29 เม.ย.นี้

นายไพบูลย์ กอตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท. กล่าวว่า คณะกรรมการ กนง.ประเมินว่าขณะนี้ความเสี่ยงจากสถานการณ์การเมืองในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น การท่องเที่ยว การบริโภคและการลงทุน ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/53 ที่ผ่านมาได้แสดงการขยายตัวที่ดีต่อเนื่อง ทั้งจากการส่งออก การบริโภค และการลงทุน โดยได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ความเชื่อมั่นของเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น และปัจจัยพื้นฐานที่เข้มแข็ง ซึ่งสนับสนุนให้เศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้ดีในปีนี้

ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ที่ดี อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ในระดับต่ำ แต่มีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะต่อไปตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบ ด้านฐานะต่างประเทศมีความมั่นคงและความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางด้านการเงินอยู่ในเกณฑ์ต่ำ

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นยอมรับว่ามีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญมากที่กระทบต่อการภาคการท่องเที่ยว การบริโภคและการลงทุน กนง.จึงจะติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดต่อไป ซึ่งที่ประชุม กนง.วันนี้มีความเป็นห่วงปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้น และได้ประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งจะนำไปรวมการทบทวนเป้าหมายการเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้ในรายงานแนวโน้มเงินเฟ้อที่จะประกาศในวันที่ 29 เม.ย.53 ซึ่งจะมีการปรับเป้าหมายเศรษฐกิจใหม่อย่างแน่นอน

สำหรับทิศทางดอกเบี้ยนโยบายที่ กนง.วันนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิม เพื่อรอประเมินผลกระทบที่ชัดเจนจากการชุมนุมทางการเมืองต่อการเติบโตของภาวะเศรษฐกิจว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากมีการประเมินภาพชัดเจน การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเข้าสู่ภาวะปกติ ก็จะเป็นขั้นตอนดำเนินการต่อไป

"ท่องเที่ยว การลงทุนถูกกระทบมีผลต่อเศรษฐกิจพอสมควร แต่อยากให้ตระหนักว่าปัจจัยพื้นฐานโดยรวมเศรษฐกิจไทยยังมั่นคง ไม่ว่าเสถียรภาพในประเทศ อัตราเงินเฟ้อ และฐานะด้านต่างประเทศ ซึ่งส่งออกยังขยายตัวดีอยู่ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวมั่นคงดีขึ้นกว่าการประชุม กนง.ครั้งก่อน แต่อาจได้รับปัญหาผลกระทบการเมือง ซึ่งตอนนี้ยังเร็วไปที่จะประเมินผลกระทบ และยังไม่เห็นการเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติของภาวะเงินทุนไหลออก" นายไพบูลย์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ