นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ภายใต้แนวคิด “เศรษฐกิจสร้างสรรค์" หรือ Creative Economy ที่รัฐบาลประกาศใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย โดยแนวคิดดังกล่าว จะนำเอารากฐานทางศิลปวัฒนธรรมที่มีมาอย่างยาวนานของประเทศไทยมาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ และการผลิตสินค้าของไทยอย่างสร้างสรรค์ ด้วยการส่งเสริมให้แต่ละจังหวัด แต่ละชุมชนสร้างตราสินค้า และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ของสินค้าในท้องถิ่นให้มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง เพิ่มมูลค่าสินค้าให้มากขึ้น โดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นต้นแบบในเรื่องการคิดสร้างสรรค์ และทรัพย์สินทางปัญญา คาดว่าตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป จะสามารถเริ่มโครงการต่างๆ ได้ทั่วประเทศ
หลังจากนั้นจะมีการคัดเลือก 10 จังหวัด เพื่อเป็นเมืองต้นแบบ พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงเชิญประเทศและองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม World Creative Economy Forum หรือ WCEF ครั้งแรกของโลก ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ เชื่อว่าโครงการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์นี้จะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนได้อย่างมาก
รมช.พาณิชย์ กล่าวอีกว่า นอกจากการส่งเสริม สนับสนุน ให้มีการผลิตคิดค้นอย่างสร้างสรรค์ในหมู่คนทำงานแล้ว ยังจะมีการบรรจุแนวคิดลักษณะดังกล่าวลงในแบบเรียน รวมทั้งส่งเสริมให้มีการประกวดในระดับมหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดการแข่งขันและพัฒนาฝีมือแรงงาน รวมทั้งสินค้าไทย ตั้งแต่ระดับเยาวชน