กลุ่มนักธุรกิจชาวสหรัฐเผยจีนใช้นโยบายกีดกันทางการค้าในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ วอนรัฐบาลเปิดตลาดเสรีเพื่อรองรับการลงทุนจากบริษัทต่างชาติในอนาคต
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สภาหอการค้าอเมริกันในประเทศจีนได้ยกระดับการประเมินสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในรายงานประจำปี แต่ขณะเดียวกันก็แสดงความกังวลว่า การดำเนินนโยบายปฏิรูปตลาดเป็นไปอย่างเชื่องช้า ขณะที่รัฐบาลยังคงสนับสนุนบริษัทด้านเทคโนโลยีภายในประเทศ รวมถึงบริษัทในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆด้วยการสกัดกั้นการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่างชาติที่เป็นคู่แข่ง
ด้านประธานสภาหอการค้าอเมริกันกล่าวในการแถลงข่าวว่า "เราเห็นถึงการดำเนินนโยบายในหลายภาคอุตสาหกรรมทั้งในส่วนของธุรกิจเทคโนโลยีและธุรกิจอื่นๆซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า โอกาสการดำเนินธุรกิจของชาวต่างชาติในประเทศจีนจะลดน้อยลงอีกในอนาคต"
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวเป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่ออกมาตอกย้ำถึงกระแสร้องเรียนจากบริษัทต่างๆว่า จีนใช้มาตรการสนับสนุนบริษัทในประเทศ ซึ่งถือเป็นการผิดคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับองค์การการค้าโลก (WTO) ว่าจะดำเนินการเปิดตลาดเสรี
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวได้แนะถึงความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างในตลาด ซึ่งรวมถึงนโยบายสำหรับผู้นำภาคธุรกิจจีนและสหรัฐ พร้อมทั้งเรียกร้องให้จีนผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการลงทุนของต่างชาติ
โดยเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาจีนได้ประกาศให้การสนับสนุนเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นในประเทศจีน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้จุดกระแสคัดค้านจากต่างประเทศ ส่งผลให้ในเดือนนี้รัฐบาลจีนออกมาประกาศว่า จะปฏิบัติกับบริษัททั้งในและต่างประเทศอย่างเท่าเทียมกัน
อย่างไรก็ตาม รายงานการดำเนินธุรกิจประจำปีของสภาหอการค้าอเมริกันระบุว่า บริษัทสหรัฐมีมุมมองในแง่บวกต่อเศรษฐกิจจีน ที่สามารถดีดตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็วหลังเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก และผลกำไรของบริษัทมีการฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจจีนเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากระดับ 14% ในปี 2552 มาอยู่ที่ 27% ในปีนี้ นอกจากนี้ 71% ของบริษัทที่ทำการสำรวจระบุว่า การดำเนินธุรกิจในประเทศจีนสามารถทำกำไรได้ในปีที่ผ่านมา และเกือบ 4 ใน 5 มีแผนขยายการลงทุนในจีนเพิ่มขึ้นในปีนี้