"กลุ่มมิตรผล"ผุดโรงไฟฟ้าชีวมวลจากชานอ้อยแห่งแรกในจีนรับอุตฯพลังงานใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 28, 2010 15:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวัฒน์ กมลพนัส กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจไฟฟ้าในกลุ่มมิตรผล เปิดเผยว่า กลุ่มมิตรผลได้ตัดสินใจลงทุนสร้างโรงงานไฟฟ้าชีวมวล โดยใช้เงินลงทุนจำนวน 280 ล้านหยวน หรือกว่า 1,300 ล้านบาท บนพื้นที่ 34 ไร่บริเวณต่อจากโรงงานน้ำตาลฟูหนาน นับเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งแรกในจีนที่ผลิตไฟฟ้าจากชานอ้อย 100% ขณะที่โรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ในจีนจะใช้เชื้อเพลิงจากถ่านหินและพลังงานลม

เนื่องจากมองเห็นถึงศักยภาพของโรงงานน้ำตาลในมณฑลฟูหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จะสามารถนำชานอ้อยที่เหลือมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าชีวมวล

โดยการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าชีวมวลในฟูหนานแบ่งเป็น 5 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 การเตรียมการจัดจ้างบุคลากร ออกแบบโรงไฟฟ้าและปรับพื้นที่ก่อสร้าง ระยะที่ 2 ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่ไตรมาส 1/2553 ที่ผ่านมา ระยะที่ 3 ติดตั้งเครื่องจักร และเริ่มอบรมบุคลากร โดยจะจัดส่งเจ้าหน้าที่จากจีนมาอบรมที่ประเทศไทยและจัดส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากไทยไปช่วยงานที่จีนในระยะเริ่มต้น ระยะที่ 4 ทดสอบการดำเนินงาน และทดลองเดินเครื่องจักร ระยะที่ 5 เริ่มเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายไฟจริง

โรงไฟฟ้าชีวมวลในฟูหนานเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีกำลังการผลิต 32 เมกกะวัตต์ เดินเครื่องผลิตไฟ 10 เดือน ด้วยเทคโนโลยีหม้อน้ำแรงดันสูงประเภท 100 บาร์ ที่มีประสิทธิภาพในการเผาไหม้เชื้อเพลิงอย่างสมบูรณ์ โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้จำนวน 30 เมกกะวัตต์จะจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าของมณฑลกวางสีภายใต้เงื่อนไขสัญญา 15 ปี การก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งนี้ ไม่เพียงแค่เพิ่มจำนวนกระแสไฟฟ้าที่จะแจกจ่ายไปยังชุมชนเท่านั้น แต่ยังถือเป็นโอกาสในการสร้างอาชีพและรายได้เพิ่มให้กับประชาชนในท้องถิ่นด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ การบุกเบิกอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าชีวมวลในจีนของกลุ่มมิตรผล ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนทั้งด้านนโยบายและการให้ความช่วยเหลือด้านราคา (Adder) เนื่องจากเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการประกาศเดินหน้าแผนพัฒนาอุตสาหกรรมของจีนที่ได้รับการตีพิมพ์เมื่อไม่นานมานี้ ในการสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนรูปแบบอื่นในอุตสาหกรรมและลดการใช้พลังงานจากถ่านหิน ซึ่งก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออคไซด์เป็นจำนวนมาก โดยแผนดังกล่าวได้ระบุชัดเจนว่า จีนจะเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน โดยเฉพาะพลังงานจากแสงอาทิตย์ ลมและชีวมวล โดยในปีพ.ศ. 2596 หรืออีกประมาณ 40 ปีจากนี้ไปพลังงานใหม่เหล่านี้จะมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 40 ของปริมาณการใช้พลังงานทั้งหมดของประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ