สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการที่แข็งแกร่งทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวล และลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง โดยเฉพาะเมื่อทางการสหรัฐและเยอรมนีรายงานข้อมูลที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานภายในประเทศเริ่มฟื้นตัวแล้ว นอกจากนี้ นักลงทุนยังคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซหลังจากเยอรมนีออกมาเรียกร้องให้หลายฝ่ายเร่งหาข้อสรุปในการช่วยเหลือกรีซ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 3.00 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,168.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,162.20-1,171.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบพ.ค.เพิ่มขึ้น 44.20 เซนต์ ปิดที่ 18.549 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 3.6 เซนต์ ปิดที่ 3.3505 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,733.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 20.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 549.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.10 ดอลลาร์
นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานในสหรัฐและเยอรมนีเริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 24 เม.ย. ร่วงลง 11,000 คน มาอยู่ที่ระดับ 448,000 คน ขณะที่อัตราว่างงานเดือนเม.ย.ในเยอรมนี ลดลงแตะระดับ 8.1% จากระดับ 8.5% ในเดือนมี.ค. ขณะที่จำนวนผู้ว่างงานลดลง 162,000 คน มาอยู่ที่ 3.4 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 82 ล้านคน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคลายความกังวลเรื่องปัญหาหนี้สินของกรีซ หลังจากนายกรัฐมนตรีเยอรมนีกล่าวว่า กรีซจะไม่ถูกปล่อยให้ล้มละลายจนกลายเป็นสาเหตุของวิกฤตการณ์การเงินในระบบแบบเดียวกับเลห์แมน บราเธอร์ส พร้อมกับเรียกร้องให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และองค์กรอื่นๆ เร่งเจรจาเพื่อกู้วิกฤตการเงินของยุโรป
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ถือครองทองคำแท่ง 1,152.913 ตัน ณ วันที่ 28 เม.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับของวันที่ 27 เม.ย.ที่ระดับ 6.088 ตัน