เกา เป่ยซี ประธานไชน่า หัวนึง กรุ๊ป (China Huaneng Group) เตรียมเพิ่มการติดตั้งแท่นผลิตพลังงานสะอาดเป็น 35% ของแท่นผลิตพลังงานทั้งหมดภายในปี 2563 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 30% จากปี 2548 นอกจากนี้ บริษัทจะหาวิธีลดปริมาณการใช้ถ่านหินลง 32% ในปีดังกล่าว และลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 30% จากปี 2548
ทั้งนี้ เมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ไชน่า หัวนึง กรุ๊ป มีแท่นผลิตพลังงานสะอาดอยู่ที่ 15% ของแท่นผลิตทั้งหมด ขณะที่โรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดขนาด 1 ล้านกิโลวัตต์มีสัดส่วนคิดเป็น 33% ของโรงงานผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในประเทศ
-- ไชน่า หัวนึง กรุ๊ป เปิดตัวโครงการสาธิตการดักจับก๊าซคาร์บอนแห่งแรกของจีนที่สามารถดักจับก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ได้เกือบ 4,000 ตันหลังจากที่ดำเนินการมาเป็นเวลา 1 ปี โดยก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ที่ถูกดักจับทั้งหมดได้ถูกนำไปใช้ในกระบวนการเชิงพาณิชย์
ทั้งนี้ โครงการสาธิตดังกล่าวตั้งอยู่ที่โรงงานถ่านหินของบริษัทหัวนึงในกรุงปักกิ่ง ซึ่งโรงงานแห่งนี้มีส่วนร่วมในการลงทุนด้านอุปกรณ์ต่างๆเป็นเงิน 21 ล้านหยวน และมีกำลังการผลิตพลังงานต่อปีที่ประมาณ 3,000 ตัน ขณะที่อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 85%
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ บริษัทได้จัดตั้งโครงการดักจับก๊าซคาร์บอนจำนวน 12 ตันต่อวัน ซึ่งก๊าซที่ถูกดักจับทั้งหมดถูกนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ด้วยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 500 หยวน/ตัน ขณะที่ต้นทุนการดำเนินงานนั้นใช้เงินเพียง 300 หยวน/ตัน
-- หวัง จีซวน เลขาธิการสภาการไฟฟ้าจีน (CEC) เปิดเผยว่า จีนอาจเผชิญภาวะอุปทานถ่านหินตึงตัวในช่วง 3 ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แต่สถานการณ์ดังกล่าวจะเลวร้ายลงหรือไม่ขึ้นอยู่กับการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ถ่านหิน รวมถึงปัจจัยด้านโครงสร้างการผลิตถ่านหินในประเทศ
ทั้งนี้ CEC คาดว่า อัตราการใช้ถ่านหินโดยรวมในภาคอุตสาหกรรมพลังงานของจีนอาจพุ่งทะลุ 1.6 พันล้านตันในปีนี้
ภายใต้แผนติดตั้งเครื่องผลิตพลังงานเป็นจำนวนมากนั้น ปัจจัยด้านผลผลิตถ่านหิน สภาพอากาศ และแหล่งน้ำล้วนเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตพลังงานของจีนในปีนี้