สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์การเงินยุโรปและความตึงเครียดทางการเมืองในคาบสมุทรเกาหลี ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ดีดขึ้น 4.00 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,198.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,185.20 - 1,200.40 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 17.7810 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 21.90 เซนต์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,491.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 42.60 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนมิ.ย.ปิดที่ 430.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 23.15 ดอลลาร์
นักลงทุนยังคงเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มว่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินยุโรป รวมทั้งความตึงเครียดทางการเมืองในคาบสมุทรเกาหลีที่ปะทุขึ้นทันทีที่มีข้อมูลบ่งชี้ว่า เกาหลีเหนือยิงจรวดตอร์ปิโดใส่เรือรบเกาหลีใต้ในทะเลเหลืองจนเรืออับปางลง และมีผู้เสียชีวิต 46 ราย นอกจากนี้ นายคิม จองอิล ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ยังสั่งการให้กองทัพเกาหลีเหนือเตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบ
ตลาดทองคำนิวยอร์กได้แรงหนุนหลังจาก คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนพ.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 63.3 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2551 และทำสถิติพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากผู้บริโภคคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุด เข้าถือครองทองคำแท่งเพิ่มขึ้น 16.737 ตัน สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,236.889 ตันเมื่อวันที่ 24 พ.ค. จากระดับของวันที่ 19 พ.ค.ที่ 1,220.152 ตัน