นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ โอเรียนท์ ซิเคียวริตีส์ คาดการณ์ว่า ธนาคารพาณิชย์ของจีนจะปล่อยเงินกู้ 8.7 ล้านล้านหยวนแก่บริษัทจัดหาเงินกู้ระดับท้องถิ่นของรัฐบาลมูลค่า 8.7 ล้านล้านหยวนภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งความเสี่ยงจากการปล่อยกู้ครั้งนี้จะส่งผลให้เงินทุนสำรองสภาพคล่องและเงินทุนสำรองสำหรับเงินฝากตกอยู่ในความเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วย และจะส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต้องตีมูลค่าสินทรัพย์ใหม่ (revaluation)
ผลการวิจัยของบริษัทหลักทรัพย์ นิกโก คอร์เดียล ซิเคียวริตีส์ ชี้ว่า เงินกู้ค้างชำระ (outstanding loan) ที่ธนาคารจีนปล่อยให้กับบริษัทจัดหาเงินกู้ท้องถิ่นมีอยู่ทั้งสิ้น 7.3 ล้านล้านหยวนในช่วงสิ้นปีที่แล้ว ซึ่งจากจำนวนเงินทั้งหมดนี้ เป็นเงินกู้ค้างชำระของธนาคารจีน 14 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ปล่อยกู้ให้กับบริษัทจัดหาเงินกู้ท้องถิ่นมูลค่า 2.7 ล้านล้านหยวน
ทั้งนี้ หากอัตราหนี้เสียของเงินกู้ที่ธนาคารจีน 14 แห่งปล่อยให้กับบริษัทจัดหาเงินกู้ท้องถิ่นอยู่ที่ 10% ก็เท่ากับว่าธนาคารทั้ง 14 แห่งนี้จะต้องเตรียมเงินสำรองหนี้เสียไว้มูลค่า 270 แสนล้านหยวน
สำนักงานตรวจสอบบัญชีของจีนเปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า รัฐบาลท้องถิ่นของจีนมียอดเงินกู้จากธนาคารทั้งสิ้น 2.79 ล้านล้านหยวนในช่วงสิ้นปีที่แล้ว ซึ่งเงินกู้ส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้เป็นทุนในโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภค
ก่อนหน้านี้ ธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงค์ ออฟ ไชน่า ได้เปิดเผยตัวเลขเงินกู้ที่ปล่อยให้แก่บริษัทจัดหาเงินกู้ท้องถิ่นมูลค่า 7.20 แสนล้านหยวนในช่วงสิ้นปีที่แล้ว ขณะที่อัตราหนี้เสียอยู่ที่ 0.03%
ส่วนแบงค์ ออฟ ไชน่า ได้ปล่อยเงินกู้ให้แก่บริษัทจัดหาเงินกู้ท้องถิ่นมูลค่า 4.20 แสนล้านหยวนในปีที่แล้ว และมีหนี้เสีย 300 ล้านหยวน ส่วนการปล่อยเงินกู้ของไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงค์ อยู่ที่ 6.46 แสนล้านหยวนในปีที่แล้ว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการธนาคารจีนพยายามผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบวงเงินกู้ที่ปล่อยให้กับบริษัทจัดหาเงินกู้ท้องถิ่น และระบุให้ธนาคารตั้งสำรองหนี้เสียให้เพียงพอ