ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แถลงภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ค.53 ขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อน โดยการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคและภาคการท่องเที่ยวลดลง จากความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้น แต่ผลกระทบอยู่ในวงจำกัด
ทั้งนี้ สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน 11.8% โดยอัตราการเข้าพักลดลงอยู่ที่ 34.9% จากการเข้าพักโรงแรมในเขตกรุงเทพฯ และภาคกลางที่ลดลงมาก อย่างไรก็ตาม อัตราเข้าพักในเขตภาคใต้อยู่ในเกณฑ์ดีที่ 45.5% สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังซึ่งอยู่ที่ 42.9%
นอกจากนี้ การบริโภคภาคเอกชนลดลงเช่นกัน แต่ระดับของการบริโภคยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน (PCI)ลดลงจากเดือนก่อน 0.2% ตามการลดลงของการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ปริมาณการใช้น้ำมัน และปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ ส่วนหนึ่งจากความกังวลต่อสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองและการประกาศห้ามออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนด(Curfew)
ขณะที่การลงทุนและการส่งออกยังขยายตัวได้ดี ตามความต้องการจากต่างประเทศที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (PII) เพิ่มขึ้น 20.7% จากระยะเดียวกันปีก่อนและ 0.9% จากเดือนก่อน ตามการขยายตัวของการลงทุนในหมวดเครื่องจักร เพื่อรองรับคำสั่งซื้อในอนาคตโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และการลงทุนขยายกำลังการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน
และการลงทุนในหมวดก่อสร้างก็ปรับตัวดีขึ้นตามการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือและกรุงเทพมหานคร ส่วนแรงกระตุ้นจากภาครัฐยังมีต่อเนื่อง แต่ชะลอลงเนื่องจากวันหยุดราชการที่มากขึ้น