(เพิ่มเติม) ธปท.เผยเศรษฐกิจ พ.ค.ชะลอลงจากการเมืองแต่ผลกระทบจำกัด แนวโน้มโตดีขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 30, 2010 15:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แถลงภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ค.53 ขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อน โดยการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคและภาคการท่องเที่ยวลดลง จากความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้น แต่ผลกระทบอยู่ในวงจำกัด และมองว่าแรงส่งจากการขยายตัวเศรษฐกิจที่สูงมากในไตรมาสแรกจะยังส่งผลบวกไปจนถึงปลายปีนี้

"ตัวเลขผลกระทบเดือนพ.ค.ไม่สูงมาก มีบางเซ็คเตอร์เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ เช่น ท่องเที่ยว การผลิต แต่มันก็เป็นเรื่องแค่ชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งในประมาณการ GDP ของแบงก์ชาติที่ทำในเดือน เม.ย.ยังไม่ได้รวมตัวเลขของไตรมาสแรก ดังนั้นในการประชุม กนง.ในวันที่ 14 ก.ค.ก็จะเอาข้อมูลนไตรมาสแรกละข้อมูลล่าสุดในเดือน พ.ค.เข้ามาประเมินและประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ต่อไป" นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธปท.กล่าวในการแถลงข่าว

ธปท.ระบุว่า สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน 11.8% โดยอัตราการเข้าพักลดลงอยู่ที่ 34.9% จากการเข้าพักโรงแรมในเขตกรุงเทพฯ และภาคกลางที่ลดลงมาก อย่างไรก็ตาม อัตราเข้าพักในเขตภาคใต้อยู่ในเกณฑ์ดีที่ 45.5% สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังซึ่งอยู่ที่ 42.9% ขณะที่ ธปท.คาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวน่าจะใช้เวลากลับเข้าสู่ปกติใน 7-8 เดือน

นอกจากนี้ การบริโภคภาคเอกชนลดลงเช่นกัน แต่ระดับของการบริโภคยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน (PCI)ลดลงจากเดือนก่อน 0.2% ตามการลดลงของการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ปริมาณการใช้น้ำมัน และปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ ส่วนหนึ่งจากความกังวลต่อสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองและการประกาศห้ามออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนด(Curfew)

ขณะที่การลงทุนและการส่งออกยังขยายตัวได้ดี ตามความต้องการจากต่างประเทศที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (PII) เพิ่มขึ้น 20.7% จากระยะเดียวกันปีก่อนและ 0.9% จากเดือนก่อน ตามการขยายตัวของการลงทุนในหมวดเครื่องจักร เพื่อรองรับคำสั่งซื้อในอนาคตโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และการลงทุนขยายกำลังการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน

และการลงทุนในหมวดก่อสร้างก็ปรับตัวดีขึ้นตามการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือและกรุงเทพมหานคร ส่วนแรงกระตุ้นจากภาครัฐยังมีต่อเนื่อง แต่ชะลอลงเนื่องจากวันหยุดราชการที่มากขึ้น

นายเมธี กล่าวว่า ปัญหาการเมืองในเดือน พ.ค.แม้ว่าจะทำให้การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบมาก และผลผลิตภาคอุตสาหสกรรมบางประเภทลดลงเพราะการประกาศเคอร์ฟิวส์ แต่การบริโภคที่ชะลอลงบ้างนั้น มีแนวโน้มสูงขึ้น ประกอบกับ การส่งออกและการลงทุนขยายตัวดี ทำให้ผลกระทบการเมืองอยู่ในวงจำกัด

สำหรับการลงทุนที่เกิดขึ้นในเดือน พ.ค.ยังเป็นการลงทุนที่วางแผนไว้แล้ว และยังไม่มีการลงทุนใหม่ แต่จากการพิจารณาตัวเลขของทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน จะเห็นได้ว่าความต้องการขอรับส่งเสริมการลงทุนมีมากขึ้นน่าจะส่งผลดีต่อการลงทุนในระยะต่อไป

ขณะเดียวกันการขยายตัวของสินเชื่อที่ให้แก่ภาคธุรกิจเริ่มบวกขึ้นมาในอัตรา 0.1% เป็นครั้งแรกในรอบ 12 เดือน ทำให้เห็นแนวโน้มว่าความต้องการสินเชื่อน่าจะมีมากขึ้น ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นของภาคเอกชนที่สำรวจหลังจากเหตุการณ์วางเพลิงเซ็นทรัลเวิลด์ ก็ยังขยายตัวใกล้ 50 ซึ่งเป็นระดับที่มีความเชื่อมั่น คาดการณ์ว่แนวโน้มในระยะต่อไปมีโอกาสสูงที่ดัชนีจะสูงขึ้นเกิน 50 หลังการเมืองคลี่คลาย

ส่วนเงินทุนไหลสุทธิ 2.5 พันล้านเหรียญ สรอ.ในเดือน พ.ค.นั้น เป็นเงินจากการลงทุนในหุ้นและพันธบัตร อย่างละ 600 ล้านเหรียญ สรอ. และมีการคืนเงินกู้ระยะสั้นของภาคสถาบันการเงินไทยอีกกว่า 1 พันล้านเหรียญ สรอ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ